blog-hdr.gif

Integrity Legal

Posts Tagged ‘วีซ่าอเมริกา’

8th June 2011

บทความนี้เขียนถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทนายความอเมริกันให้คำแนะนำในกระบวนการของวีซ่าประเภทเค-วัน เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักถึงในการที่จะขอคำแนะนำเกี่ยวกับกระบวนการขอคำปรึกษาในการทำวีซ่าก่อนที่จะทำการตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญยากที่จะเปลี่ยนแปลง

วีซ่าประเภทเค-วันเป็นวีซ่าคู่หมั้นสหรัฐอเมริกาที่ไม่ถาวรซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อคู่หมั้นชาวต่างชาติของพลเมืองอเมริกัน วีซ่าประเภทเค-วันอนุญาตให้คู่หมั้นชาวต่างชาติของพลเมืองอเมริกันเข้าไปในสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลา 90 วันเพื่อวัตถุประสงค์ในการแต่งงาน ผู้ที่แต่งงานกับคูหมั้นภายหลัง 90 วันในสหรัฐอเมริกาจะต้องเดินทางออกนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้อ่านควรจะพึงระลึกว่า การเข้าไปยังสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่าเค-วันที่จะแต่งงานกับคู่รักต้องอยู่ในสถานะของกระบวนการเปลี่ยนสถานะผู้ที่จะได้รับสถานะผู้ที่มีถิ่นฐานถาวรในสหรัฐอเมริกา

วัตถุประสงค์ของบทความนี้เพื่อที่จะชี้ให้เห็นถึงมุมมองเกี่ยวกับการจัดการเกี่ยวกับบุคคลที่ไม่ได้รับใบอนุญาตที่จะปฏิบัติงานเกี่ยวกับกฎหมายคนเข้าเมืองในสหรัฐอเมริกา(หรือ กฎหมายอเมริกันใดๆ) ตามบทบัญญัติ 8 CFR 292.1 มีเพียงทนายความที่ได้รับใบอนุญาตในการปฏิบัติงานในอย่างน้อยหนึ่งรัฐหรือเขตอำนาจรัฐบาลกลางที่มีสิทธิที่จะเรียกค่าธรรมเนียมจากลูกความในเรื่องการว่าความกฎหมายคนเข้าเมือง ดังนั้นอาจจะไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับข้อจำกัดในวงแคบที่วางกฎเกณฑ์ไว้ก่อนหน้านี้โดยพฤติกรรมของคนเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักถึงว่า ความเชื่อมั่นระหว่างทนายและลูกความนั้นเป็นประเด็นที่สำคัญที่ควรจะพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือของคุณสมบัติในบริบทการเข้าเมืองในต่างประเทศซึ่งเรียกว่า “ตัวแทนวีซ่า” หรือ “ที่ปรึกษาการเข้าเมือง” อ้างถึงคุณสมบัติในความเชื่อมโยงกับการเข้าเมืองสสหรัฐอเมริกา สิทธิประโยชน์ทนายและลูกความไม่ได้ขยายความไปถึงผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นทนายความอเมริกัน และจากกการอภิปรายแล้วผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นทนายความจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษ ในข
ณะเดียวกัน ผู้ที่แสดงตัว หรือแกล้งเป็นทนายอเมริกัน ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้รับสสิทธินี้

ด้วยเหตุผลที่กบ่าวมาแล้วในข้างต้นควรจะอ้างถึงทนายความที่มีความสามารถและไดรับใบอนุญาตจากสหรัฐอเมริกาในการที่จะให้คำแนะนำแก่ลูกความ ผู้อ่านควรที่จะทำความเข้าใจว่า ในบทความนี้ไม่ได้เชิญชวนให้มีการแต่งงานและไม่ใช่ความตั้งใจของผู้เขียนที่จะเขียนถึงการโฆษณาดังกล่าว บทความนี้เป็นบทความที่จะเตือนให้ผู้อ่านได้ตระหนักถึงการตัดสินใจที่ลูกความควรค้นหาข้อมูลในการเลือกทนายความ ความสัมพันธ์ระหว่างทนายความและลูกความไม่ใช่ “สิ่งที่เหมาะสำหรับฝ่ายเดียว” และเป็นคุณภาพในการบริการทางกฎหมายอีกด้วย ดังนั้นควรจะมีการหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะจ้างทนายความ

To view this posting in English please see: K1 Visa Thailand.

more Comments: 04

6th January 2011

เมื่อเร็วๆนี้สิ่งที่เป็นที่น่าสนใจของบล็อกคือ ความพยายามของสมาคมทนายความคนเข้าเมืองอเมริกันในการที่จะให้กงสุลที่ความตื่นตัวที่จะออกใบรับรองการเกิดในต่างประเทศและเพิ่มความพยายามที่จะสร้างขั้นตอนเพื่อลดการปลอมแปลงเอกสารที่สำคัญนี้ อ้างโดยตรงจากเว็บไซต์กระทรวงแห่งสหรัฐอเมริกา:

กระทรวงแห่งรัฐมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแนะนำการออกแบบใหม่ของรายงานกงสุลในเรื่องการเกิดในต่างแดน(CRBA) CRBAนี้เป็นบันทึกที่รับรองอย่างเป็นทางการว่า เด็กที่เกิดในต่างแดนจากพ่อแม่ที่เป็นพลเมืองอเมริกานั้นได้สัญชาติอเริกันโดยการเกิด เอกสารที่มีการออกแบบใหม่นี้มีความปลอดภัยซึ่งสามารถที่จะขัดขวางการเปลี่ยนแปลงหรือปลอมแปลงได้

สถานทูตอเมริกาและสถานกงสุลทั่วโลกได้มีการพิมพ์ CRBAs ตั้งแต่การริเริ่มในปี1919 มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2554 ซึ่งจะมีการพิมมพ์ที่หน่วยบริการพาสปอร์ตในพิร์ตเมาส์ นิวแฮมเชียร์ และนิวออร์ลีน หลุยเซียนา การเป็นศูนย์กลางของการผลิตและการกำจัดการแจกจ่ายแบบฟอร์มที่ว่างเปล่าทั่วโลกเป็นหลักประกันว่า ต้องมีการปรับปรุงคุณภาพของรูปแบบและลดการปลอมแปลง

การยื่นขอพาสปอร์ตสหรัฐอเมริกาและการออกแบบCRBA จะใช้ในแง่มุมของผู้ปกครองดูแลซึ่งตรงข้ามกับแม่และพ่อ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญต้องการที่จะอธิบายถึงเพศของเด็กที่ได้มาจากพ่อและแม่และความแตกต่างของครอบครัวแต่ละแบบ

มันยังคงเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบต่อพฤติการณ์การฉ้อฉลที่เกี่ยวข้องกับรายงานของกงสุลเกี่ยวกับการเกิดในต่างประเทศ อาจกล่าวได้ว่า รายงานของกงสุลเกี่ยวกับการเกิดในต่างประเทศนั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในเรื่องของเอกสารในฐานะที่เป็นหลักฐานแสดงสัญชาติของคนอเมริกันที่เกิดนอกสหรัฐอเมริกา โดยส่วนมากพ่อแม่มักได้รับรายงานของกงสุลเกี่ยวกับการเกิดทันทีก่อนที่จะขอพาสปอร์ตสหรัฐอเมริกาในฐานะของเด็กที่เกิดในต่างประเทศ

ผู้เขียนบล็อกเห็นว่า สิ่งที่น่าสนใจคือ กระทรวงแห่งรัฐมีขั้นตอนที่สร้างเอกสารที่มีความเป็นกลางทางเพศมากขึ้น เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวในปี 2010 กระทรวงแห่งรัฐประกาศมาตรการที่จะนำไปใช้ในทางปฏิบัติเพื่อที่จะอนุญาตให้มีการแปลงเพศและเปลี่ยนเพศในพาสปอร์ตสหรัฐอเมริกา นับเป็นสิ่งที่ปรากฏได้ว่า ความพยายามต่อความเป็นกลางทางเพศในการที่จะปรับเลี่ยนข้อมูลรายงายของกงสุลเกี่ยวกับเด็กที่เกิดในต่างประเทศทำให้ตระหนักว่า บทบาททางเพศภายในครอบครัวและโดยโครงสร้างของครอบครัวอเมริกัน ครอบครัวอเมริกันนนั้นได้มีการฉีกกฎเดิมมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต

ายใต้สถานการณ์ที่แน่นอน เด็กที่เกิดนอกสหรัฐอเมริกานั้นไม่สามารถที่จะได้รับสิทธิการเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาโดยอัตโนมัติ พ่อแม่ชาวอเมริกันนั้นสามารถที่จะทำให้เด็กกลายเป็นพลเมืองอเมริกันได้โดยการยื่นคำขอรับสิทธิประโยชน์คนเข้าเมืองตามพระราชบัญญัติสัญชาติเด็ก (CCA)ปี 2000 เด็กที่เกิดจากคนสัญชาติอเมริกันนั้นกลายเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาโดยกฎหมายซึ่งตา CCA จะได้รับใบรับรองสัญชาติซึ่งเหมือนกับใบรับรองการแปลงสัญชาติแม้ว่าในทางทฤษฎีผู้ถือจะไม่ได้สัญชาติอเมริกันโดยตามธรรมชาติ

For related information please see: Department of State.

more Comments: 04

13th December 2010

ประเด็นเรื่องการฉ้อโกงในการเข้าเมืองเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเรื่องหนึ่ง เจ้าหน้าที่รัฐของสหรัฐอเมริกาในกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (USCIS) กระทรวงของรัฐ (DOS) หน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา (USCBP) และหน่วยบังคับการคนเข้าเมืองและศุลกากร(USICE)ทั้งหมดนี้อยู่ในความรับผิดชอบที่จะต้องตรวจสอบและสอบสวนเกี่ยวกับการฉ้อฉลเรื่องวีซ่าและการเข้าเมือง ผู้เขียนคิดว่ามีความน่าสนใจในเรื่องการบริการคนเข้าเมืองและการพิธีการทางศุลกากร ได้มีการอ้างอย่างเป็นทางการในฐานะ ICEถึงการจับกุมชาวไนจีเรียที่มีส่วนพัวพันกับการปลอมแปลงวีซ่าสหรัฐอเมริกา อ้างโดยตรงจากเว็บไซต์ ICE.gov

ฮูสตั้น- เมื่อวันจันทร์มีการถอนสัญชาติอเมริกันของชายชาวไนจีเรียที่ถูกตัดสินว่า สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อฉลการแต่งงาน ฉ้อฉลเรื่องแปลงสัญชาติ และปลอมแปลงข้อความต่างๆต่อตัวแทนของรัฐ คำตัดสินนี้ได้มมีการแถลงโดยทนายสหรัฐอเมริกาโจส์ แองเจิ้ล โมเรโน ทางใต้ของรัฐเท็กซัส การสอบสวนได้ดำเนินการโดยการบังคับการทางศุลกากรและคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา (ICE) สำนักงานการสอบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) อิบบราฮิม อดีนีน อายุ 33 ปีผู้ซึ่งมีถิ่นกำเนิดที่ไนจีเรียและได้รับการแปลงสัญชาติเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาถูกตัดสินโดยคณะลูกขุน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม เขาอยู่ในความควบคุมขอองส่วนกลางเป็นเวลา 6 เดือน ผู้พิพากษาเขตในสหรัฐอเมริกาเคนเนท ฮอทพิพากษาให้อดีนีนจำคุกในเรือนจำ ผู้พิพากษายังได้รับคำภร้องจากรัฐบาลให้ถอนสัญชาติสหรัฐอเมริกา อดีนีนยังถูกเนรเทศออกนอกประเทศด้วย

การทำให้ขาดสิทธิจากการเป็นพลเมืองเป็นกระบวนการที่บุคคลนั้นถูกถอนสัญชาติสหรัฐอเมริกาและกลับไปถือสัญชาติอื่น ในประเด็นของการปลอมแปลงการแต่งงานและกระบวนการเข้าเมมืองสหรัฐอเมริกา มีรายงานว่า

การสอบสวน ICE HIS เริ่มต้นเมื่อปี 2008 อดีนีนนั้นเกี่ยวพันกับการเป็นนายหน้าระหว่างคนสัญชาติไนจีเรียและพลเมืองสหรัฐอเมริกาเพื่อที่ว่าคนสัญชาติไนจีเรียจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเข้าเมือง ทั้งหมดนี้เพื่อนำไปสู่การเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา “คู่หมั้น”ชาวอเมริกันนั้นได้รับค่าตอบแทนในการหลอกลวงเป็นเงินสด

การร่วมมือกันฉ้อฉลเรื่องการแต่งงานในการที่จะได้รับสิทธิประโยชน์จากวีซ่าสหรัฐอเมริกานั้นเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงซึ่งเห็นได้จากรายงานที่กล่าวมาแล้วข้างบน ผู้ที่ประสงค์จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเข้าเมืองอเมริกันนั้นพึงระลึกไว้เสมอว่า การที่จะหลอกเจ้าหน้าที่การเข้าเมืองหรือพยายามที่จะหลอกลวงรัฐบาลสหรัฐอเมริกาหรือเจ้าหน้าที่ต่างๆนั้น ไม่ใช่วิธีที่ชาญฉลาด แม้ว่าจะกลายเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาแล้ว แต่การกระทำที่หลอกลวงในขั้นตอนการทำวีซ่านั้นอาจจะทำให้ถูกถอนสัญชาติและมีความผิดทางอาญา

เพื่อผลประโยชน์ทางวีซ่า ควรที่จะปรึกษาทนายอเมริกันที่มีใบอนุญาตเพื่อที่จะดำเนินการในเรื่องกระบวนการคนเข้าเมืองเพราะทนจายอเมริกันที่ได้รับอนุญาตและมีความเข้าใจอย่างถูกต้องอย่างน้อยในหนึ่งรัฐนั้นก็มีสิทธิที่จะให้คำแนะนำ คำปรึกษา หรือการดำเนินการแทน

To view this posting in English please see: Denaturalization.

more Comments: 04

8th November 2010

แม้ว่าบล็อกนี้แทบจะไม่ค่อยมีการถกเถียงเรื่อง ประเด็นเศรษฐกิจ แต่เมื่อเรื่องเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อประเด็นทางกฎหมาย หรือการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาซึ่งทำให้การถกเถียงกันในประเด็นนี้เป็นเรื่องที่จำเป็น หลายเดือนที่ผ่านมา เงินดอลลาห์สหรัฐอเมริกาทำให้ค่าเงินของประเทศต่างๆในเอเชียลดลง แต่ไม่ทำให้ค่าเงินหยวนลอยตัวเหมือนเงินสกุลอื่นๆ โดยสรุปแล้ว ภาวะความตึงเครียดทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ระหว่างสหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน  ราชอาณาจักรไทย และชาติอื่นๆในเอเชีย ในขณะเดียวกัน ค่าเงินของบางประเทศสมาชิกสมาคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ก็เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาห์สหรัฐ ในบทบรรณาธิการที่กล่าวไว้ใน ThaiVisa.com

ในหลายๆสถานการณ์ที่เงินดอลลาห์กำลังดิ่งลง ค่าเงินดอลลาห์ตกไปอยู่จุดต่ำที่สุดในรอบห้าเดือนเมื่อเปรียบเทียบกับเงินยูโร  ทองคำซึ่งเป็นเครื่องที่กีดขวางความคาดหวังความเฟ้อในอนาคตสามารถก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในการคาดการณ์ล่วงหน้าของตลาดซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เต็มไปด้วยระบบทางการเงินที่มีความคล่องตัวกว่าในเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

การบรรเทาทางการเงินจะส่งผลให้เงินดอลลาห์สหรัฐอ่อนค่าลงมากขึ้น และรัฐบาลสหรัฐดำเนินมาตรการขาดดุล ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ก็ดำเนินการตามเพื่อช่วยเหลือการซื้อเงินทุนในภาวะขาดดุลซึ่งไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงในอนาคตที่สามารถคาดการณ์ได้เนื่องจากความไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รายได้จากภาษีที่ลดลง และภาระหนี้ที่เพิ่มมากขึ้น

ความไม่มั่นคงของสหรัฐอเมริกา วิกฤตการณ์หนี้ในยุโรปและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ประเทศไทยจะจัดการกับนโยบายที่ท้าทายนี้อย่างไร สิ่งแรกคือค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เงินบาทนั้นกำลังกลับไปสู่ยุคของก่อนวิกฤตการณ์ปี 1997ในระดับที่ 25 บาทต่อหนึ่งดอลลาห์

สิ่งที่ควรตระหนักถึงคือ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐประกาศว่า จะอัดฉีดเงินจำนวนหกพันล้านดอลลาห์สหรัฐในช่วงหลายๆเดือน ตามที่ได้รวบรวมจากข้อความที่มีการรอ้างถึงข้างบน นโยบายการบรรเทาเชิงปริมาณส่งผลให้ค่าเงินดอลลาห์ลดลลงเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินของเอเชีย (และสกุลเงินอื่นๆทั่วโลก แต่บทความนี้มุ่งเน้นไปที่เอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย) ในบทความที่เขียนลงในหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นและเผยแพร่ใน ThaiVisa.com รายละเอียดการถกเถียงประเด็นนี้มี ดังนี้

เมื่อเงินทุนหลั่งไหลจากสหรัฐอเมริกามาสู่เอเชียในปริมาณมาก ส่วนมากไม่สามารถไหลไปยังจีน ดังนั้นจึงเงินจึงอยู่ในตลาดที่ปรากฏออกมาเช่นประเทศอาเซียน กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศไทย กล่าว

“พวกเรา สองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่มีความแตกต่างในประเด็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ผมคิดว่า พวกเขาเข้าใจสถานการณ์ที่ลำบาก”นายกร์กล่าว

ค่าของเงินดอลลาห์สหรัฐยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ค่าเงินหยวนของจีนยังไม่เพิ่มขึ้น ประกาศการบรรเทาเชิงปริมาณของสหรัฐฉบับล่าสุดมีจุดมุ่งหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจภายในของสหรัฐ ค่าของเงินในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อต้านกับสหรัฐ ค่าของเงินที่สูงขึ้นนี้ต้องตระหนักถึงการแข่งขันเรื่องการส่งออก

สองยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจ จีนและอเมริกาต่างมีความเสมอภาคกันในทางค่าของเงินและการค้า แต่ประเด็นที่ส่งผลกับคนไทยคือการเพิ่มขึ้นขิงค่าเงินบาท หลายๆคนมองว่า ไม่ได้สนใจในเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นและมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ พวกเขาอาจจะคิดถูก อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของค่าเงินที่ผ่านมานั้นสามารรถพิสูจน์ได้ว่า เป็นประโยชน์ต่อคนไทยที่ต้องการวีซ่าผู้ลงทุนในสหรัฐอเมริกา

วีซ่าสหรัฐอเมริกาประเภทEB-5(ประเภทการลงทุนผู้ที่มีถิ่นฐานถาวร)นั้นเป็นเอกสารการเดินทางและผู้ที่อาศัยอยู่ถาวรอย่างถูกต้องตามกฎหมายในการลงทุนที่สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ค่าเงินบาทสูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาห์สหรัฐซึ่งกลายมาเป็น “ถูกขึ้น” (ในมุมมองของเงินบาท)เพื่อที่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์การลงทุนในสหรัฐ ดังนั้นเงินดอลลาห์กลายมาเป็นอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาทไทยซึ่งกลายมาเป็นแพงกว่าเล็กน้อยจากมุมมองของเงินบาทเพื่อที่จะลงทุนในสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ที่ปรารถนาที่จะตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกา อัตราแลกเลี่ยนเงินบาทต่อเงินดอลลาห์เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง

นี่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเพราะการลงทุนในสหรัฐนำไปสู่การจ้างงานใหม่ นอกจากนี้ การเข้าเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอเมริกา ความเข้มแข็งกว่าที่ว่า เศรษฐกิจกลายมาเป็นตัวกระตุ้นที่จะช่วยให้เศรษฐกิจโดยรวมมของอเมริกาฟื้นขึ้น อาจจะทำให้ภาคประชาชนและธุรกิจในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกได้รับผลประโยชน์มากขึ้นด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานการณ์นี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และช่วยฟื้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา

To view this information in English please see the previous posting.

more Comments: 04

23rd September 2010

ผู้เขียนพบปัญหามากมายจากการที่คนเข้าเมืองติดต่อกับตัวแทนหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการคนเข้าเมืองสหรัฐอเริกาที่ไม่ได้รับอนุญาต กฎหมายอเมริกันและกฎเกณฑ์ของรัฐบาลกลางนั้นระบุชัดเจนว่า ผู้ที่จะได้รับอนุญาตในการให้บริการทางกฎหมายก่อนที่จะมาถึงขั้นตอนของการบริการพลเมืองอเมริกันและการเข้าเมือง (USCIS) หรือตัวแทนอื่นที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ผู้ที่จะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาคือ ทนายความที่ได้รับอนุญาตจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น นอกจากนี้ทนายความเหล่านั้นที่จะมีสิทธิเก็บค่าธรรมเนียมในฐานะเป็นตัวแทนของลูกความก่อนที่จะถึงขั้นตอนของDHS เช่น USCISต้องเป็นทนายความที่ได้รับอนุญาตจากศาลสูงสุดของที่ใดที่หนึ่งคือ สหรัฐอเมริกา สหพันธรัฐ หรือเขตชายแดน

เป็นที่น่าเสียดายที่มีองค์กรที่ไม่ได้รับอนุญาตอยู่ทั่วโลกที่อ้างว่าสามารถให้คำแนะนำและให้ความช่วยเหลือในเรื่องการเข้าเมืองของอเมริกัน อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือที่ดียิ่งที่จะค้นหาข้อมูลการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกันอินเตอร์เน็ตก็เป็นแหล่งของปฏิบัติการที่มีการอ้างว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายโดยปราศจากการอบรมหรือใบอนุญาตใดๆ คุณควรที่จะหลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลและสิทธิส่วนบุคคลเนื่องจากคุณอาจจะไม่ได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายระหว่างทนายความอเมริกันและลูกความ

ผู้ที่ไม่ได้รับการฝึกอบรมทางกฎหมายหรือไม่มีใบอนุญาตใดๆที่จะให้บริการทางกฎหมายในเขตที่ให้อำนาจหรือในเรื่องที่เกี่ยวข้องไม่สามารถให้คำปรึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือให้ความมั่นใจในการช่วยเหลือ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญในการเตรียมข้อมูลก่อนที่จะนำไปสู่ขั้นตอนของการบริการคนเข้าเมือง ตัวแทน สถานทูตสหรัฐอเมริกา หรือสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาในต่างประเทศ ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วนั้น ลูกความที่ใช้บริการทางกฎหมายที่ไม่ได้รับอนุญาตโดยที่ผู้ให้บริการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่านั้นย่อมตกอยู่ในความเสี่ยง

เมื่อเปรียบเทียบราคาของการบริการทางกฎหมายนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำความเข้าใจกับบทบาทของการได้รับอนุญาตในขณะที่ตัดสินใจจะรับคำปรึกษา การให้บริการทางกฎหมายที่ได้รับอนุญาตด้วยราคาที่สมเหตุสมผลที่ได้รับอนุญาตนั้นย่อมไม่ก่อให้เกิดปัญหาแก่ลูกความ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่อ้างว่ามีความเชี่ยวชาญจะดำเนินการเพื่อความมั่งคั่งของธุรกิจ เมื่อเปรียบเทียบกับการให้บริการทางกฎหมายของทนายความอเมริกันแล้ว กฎหมายอเมริกันนั้นไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเข้าเมือง กล่าวโดยย่อแล้ว ไม่มีใครที่จะสามารถเปรียบเทียบการให้บริการทางกฎหมายที่ผิดกฎหมาย เพราะการให้บริการที่ผิดกฎหมายนั้นไม่สามารถจะให้บริการได้เลย แม้จะด้วยราคาเท่าใดก็ตาม

หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาปรึกษาK1 วีซ่า ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ การเข้าเมืองของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โปรดดูรายละเอียดที่ USCIS

more Comments: 04

3rd May 2010

For information in English please see: K3 Visa.

วีซ่าเค ทรี ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกด่วนของวีซ่าคู่สมรสถาวร เช่นวีซ่า IR1 และ CR1 สมัยก่อนการขอวีซ่าคู่สมรสถาวรต้องใช้เวลาถึง 3 ปีซึ่งเป็นเหตุผลที่สภาคองเกรสได้ให้มีวีซ่า เค ทรี อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความจำเป็นที่จะต้องมีวีซ่าเค ทรี ได้มีน้อยลงเมื่อเทียบกับเวลาดำเนินการที่ใช้ในอดีต วีซ่าคู่สมรสถาวรใช้เวลาประมาณ 11-12 เดือน เมื่อเทียบระยะเวลานี้กับระยะเวลาขอวีซ่าเค ทรี ก็จะเห็นได้ว่าวีซ่าเค ทรีนั้นมีความจำเป็นน้อยลงทุกที

และเพราะเหตุนั้น NVC สังกัดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้ออกประกาศที่เกี่ยวข้องกับวีซ่า เค ทรี ข้อความต่อไปนี้ ตัดมาจากบทความตีพิมพ์ของกระทรวงต่างประเทศเผยแพร่ สมาคมทนายความคนเข้าเมือง (AILA)

ประกาศสำคัญ : มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 เมื่อคำขอ I-129F สำหรับวีซ่าเค ไม่ถาวี และ คำขอ I-130 สำหรับวีซ่า IR1 หรือ CR1 สำหรับคู่สมรสของบุคคลสัญชาติสหรัฐได้รับการอนุมัติจาก USCIS และถูกส่งมาที่ NVC การมีอยู่และความจำเป็นที่จะต้องออกวีซ่าไม่ถาวร เค ทรี ถือว่าสิ้นสุดลง หากว่า NVC ได้รับคำร้องทั้งสองประเภท:

วีซ่าเคไม่ถาวรจะถูกปิดเรื่อง ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าที่อธิบายไว้ด้านล่างไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกต่อไป

NVC จะติดต่อผู้ยื่นขอและตัวคุณพร้อมทั้งขั้นตอนในการดำเนินการวีซ่าถาวร IR1 (หรือ CR1 ) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการขอวีซ่า โปรดดูหน้าเว็บไซต์วีซ่าถาวรสำหรับคู่สมรส หากว่า NVC ไม่ได้รับคำขอ I-130 และ I 129F ในเวลาเดียวกันจะเดินเรื่องคำขอ I 129F (K1) ของคุณ และจะส่งคำขอไปยังสถานทูตหรือกงสุลในประเทศที่การสมรสเกิดขึ้น หากว่าการสมรสเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา NVC จะส่งคำขอไปยังสถานทูตหรือกงสุลประเทศที่คุณมีสัญชาติ หากว่าการสมรสเกิดขึ้นในประเทศที่ไม่มีสถานทูตอเมริกัน หรือ เป็นสถานทูตที่ไม่สามารถออกวีซ่าให้ได้ NVC จะส่งคำขอไปยังสถานทูตหรือกงสุลที่ดำเนินการด้านวีซ่าให้แก่คนสัญชาตินั้นๆ ตัวอย่างเช่น หากว่าการสมรสเกิดขึ้นในประเทศอิหร่านซึ่งสหรัฐอเมริกาไม่มีสถานทูตอยู่ คำขอวีซ่าจะถูกส่งไปยังประเทศตุรกี” NVC

มีบางคนชอบถามตัวเองว่า ทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไร USCIS พิจารณาคำขอวีซ่าทั้งหมดและเมื่ออนุมัติ จะส่งต่อไปยัง NVC ซึ่ง NVC จะจัดการกับคำขอวีซ่า เค ทรี ก่อนที่จะส่งไปยังกงสุลหรือสถานทูตในต่างประเทศ (สำหรับคำขอที่จะต้องดำเนินการในประเทศไทย NVC จะจัดการคำขอก่อนที่สถานทูตสหรัฐประจำกรุงเทพมหานครจะได้รับเรื่อง )

ประเด็นสำคัญคือ NVC จะไม่ดำเนินการวีซ่าเค ทรี หากว่าคำขอวีซ่าถาวรนั้นมาถึง NVC ก่อนหรือพร้อมกับคำขอวีซ่า เค ทรี ในทางปฏิบัติคำขอวีซ่าเค ทรี ทั้งหมดมีคู่ฉบับวีซ่าถาวร เชื่อได้ว่า โดยส่วนมาก  NVC รับคำขอพวกนี้ในเวลาไล่เลี่ยกัน หรือเกือบจะพร้อมๆกัน อาจจะมีบางกรณีที่คำขอเค ทรีไปถึง NVC ก่อนคำขอวีซ่าถาวร แต่โดยส่วนใหญ่นี่ไม่ใช่ประเด็น จากการสังเกตพบว่าอาจจะไม่มีวีซ่าเค ทรีสำหรับผู้ที่ต้องการขอวีซ่าคู่สมรสเนื่องจากคำขอวีซ่าถาวรจะถึง NVC ก่อน หรือพร้อมๆกับคำขอวีซ่า เค ทรี นั่นเอง

more Comments: 04

21st April 2010

For information in English please see: National Visa Center.

NVC คืออะไร?

กระบวนการขอรับผลประโยชน์จากการเข้าเมืองของสหรัฐอเมริกาอาจจะยุ่งยากเป็นบางครั้ง แต่โดยภาพรวมแล้วหากว่าเข้าใจขั้นตอนหรือมีการจ้างทนายความผู้มีประสบการณ์ก็อาจจะทำให้ง่ายขึ้น

คำถามที่พบบ่อยๆเกี่ยวกับกระบวนการขอวีซ่าก็คือ NVC คืออะไรและมีหน้าที่อะไร NVC ย่อมาจากศูนย์วีซ่าแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐภายใต้อำนาจของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐอเมริกา NVC มีสำนักงานอยู่ที่ Portsmouth มลรัฐ New Hampshire อำนาจของ NVC คือการดำเนินการคำขอวีซ่าและทำให้แน่ใจว่าคำขอวีซ่าจะถูกส่งต่อไปยังหน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่ผู้รับผลประโยชน์มีภูมิลำเนาอยู่

NVC ยังรับผิดชอบในการรวบรวมค่าธรรมเนียมวีซ่าถาวร และเอกสารสำคัญที่จำเป็นต้อเจ้าหน้าที่กงสุลในการพิจารณาคำขอ

กระบวรการดำเนินการของ NVC วีซ่าไม่ถาวรและวีซ่าถาวร

การดำเนินการของ NVC นั้นยุ่งยากและใช้เวลาค่อนข้างมากกว่าสำหรับวีซ่าถาวร ซึ่งตรงข้ามกับวีซ่าไม่ถาวร กิจกรรมหนึ่งที่ NVC ทำบ่อยๆก็คือการตรวจสอบด้านความมั่นคงและตรวจสอบภูมิหลังของผู้ที่มีความประสงค์จะเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากเหตุการณ์ 11 กันยายน 2544 NVC ได้มีบทบาทสำคัญเพื่อทำให้มั่นใจว่าบุคคลเหล่านั้นจะไม่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศสหรัฐอเมริกา

NVC นั้นบางครั้งถูกเข้าใจสับสนกับ NBC หรือ ศูนย์ผลประโยชน์แห่งชาติซึ่งได้รับมอบหมายจาก USCIS ให้จัดการเกี่ยวกับเอกสารก่อนสัมภาษณ์สำหรับการสัมภาษณ์คนเข้าเมืองในประเทศสหรัฐอเมริกา

สำหรับคนที่ต้องการนำคู่หมั้นชาวไทยไปอเมริกาโดยวีซ่า K1 ขั้นตอน NVC มักจะเร็วกว่าผู้ขอวีซ่าอพยพ ซึ่งก็เป็นจริงสำหรับกรณีวีซ่า K3 จากประเทศไทยที่ยื่นคำขอเพิ่มเติม I129F ในกรณีใดๆก็ตาม เมื่อวีซ่าได้รับการอนุมัติจาก USCIS มันจะถูกส่งต่อไปยัง NVC และ เมื่อได้รับอนุมัติคำขอจะถูกส่งไปยังสถานทูตสหรัฐอเมริกาหรือสถานกงสุลใหญ่

ขึ้นอยู่กับจำนวนเรื่องที่ NVC กระบวนการอาจจะใช้เวลาจาก 2 ถึง 8 สัปดาห์ ในการดำเนินการและส่งต่อเรื่องไปยังสถานทูตในต่างประเทศ อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นแค่ระยะเวลาโดยเฉลี่ยเท่านั้น ระยะเวลาในการดำเนินการสำหรับหน่วยงานของสหรัฐก็มักจะต่างกันไป

เมื่อยื่นคำขอที่ USCIS ในกรุงเทพมหานคร NVC จะไม่เข้ามามีส่วนในขั้นตอนใดๆเนื่องจากคำขอจะถูกส่งตรงไปยังสถานทูตอเมริกาประจำกรุงเทพมหานครซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามทันที

more Comments: 04

9th April 2010

To see related information in English please see: 221g.

ยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการที่วีซ่าถูกปฏิเสธภายใต้มาตรา 221 (G ) สำหรับคำร้องขอวีซ่าจากประเทศไทย การปฏิเสธวีซ่าตามมาตรา 221 (G ) ก็คือการปฏิเสธเพื่อขอหลักฐานเพิ่มเติม เมื่อเจ้าหน้าที่กงสุลตัดสินใจว่าจะออกวีซ่าสหรัฐอเมริกาให้หรือไม่ ( ในการนี้ให้ดูเรื่อง วีซ่าคู่หมั้น K1, K3 หรือ วีซ่าคู่สมรส CR1 ) เจ้าหน้าที่จะทำการสืบเสาะข้อเท็จจริงเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขอวีซ่าเป็นบุคคลตามที่กล่าวอ้างจริง และจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผลที่มีมูล ( ในกรณีเช่นนี้หมายความว่าต้องเป็นการเดินทางไปเพื่อวัตถุประสงค์ความสัมพันธ์ทางครอบครัวกับผู้ร้องสัณชาติอเมริกัน )

คู่รักบางคู่มีความกังวลใจเมื่อได้รับ แบบ 221 (G) และก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ขอวีซ่ามาจากต่างจังหวัด ซึ่งก็เป็นปัญหาได้ หากว่าผู้ขอวีซ่ามีสำมะโนครัว (ทะเบียนบ้าน ) อยู่ต่างจังหวัดและเป็นการยากต่อการเดินทางกลับไป บ่อยครั้งที่เอกสารที่ถูกเรียกจะต้องออกโดยอำเภอที่ผู้ขอวีซ่ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติสำหรับสถานทูตที่จะออก คำร้องขอเอกสารเพิ่มเติมในลักษณะนี้ แต่ก็สามารถเป็นเรื่องลำบากสำหรับผู้ขอวีซ่าชาวไทยที่จะไปนำเอกสารที่จำเป็นนั้นมาให้ได้

การปฏิเสธวีซ่าภายใต้มาตรา 221 (g) นี้โดยทั่วไปแล้วจะให้เวลาผู้ขอวีซ่า 1 ปีในการหาเอกสารที่ได้รับการร้องขอก่อนที่สถานทูตจะทำการทำลายไฟล์ของคุณ หากไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอนี้ ก็อาจจะทำให้คำร้องขอวีซ่าของคุณถูกยกเลิกและต้องเริ่มกระบวนการใหม่อีกครั้งหนึ่ง

เพื่อหลีกเลี่ยงการปฏิเสธวีซ่าภายใต้มาตรา 221 ( G) อาจจะเป็นการดีที่จะขอความช่วยเหลือจากทนายความด้านกฎหมายคนเข้าเมือง เพื่อป้องกันการปฏิเสธวีซ่าภายใต้มาตรา 221 ( G) แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะได้มีการจ้างทนายความแล้ว คุณก็ยังคงสามารถถูกปฏิเสธวีซ่าภายใต้มาตรา 221 ( G) ได้ หากว่ามีเอกสารอื่นที่จำเป็นต้องแสดง เจ้าหน้าที่กงสุลมีอำนาจดุลพินิจอย่างกว้างขวางตามอำนาจเด็ดขาดของกงสุล ดังนั้น คำร้องขอเอกสารเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้ากงสุลเป็นเรื่องที่คุณต้องให้การตอบรับคำร้องขอนั้นภายในเวลาที่กำหนดให้

more Comments: 04

The hiring of a lawyer is an important decision that should not be based solely on advertisement. Before you decide, ask us to send you free written information about our qualifications and experience. The information presented on this site should not be construed to be formal legal advice nor the formation of a lawyer/client relationship.