blog-hdr.gif

Integrity Legal

Archive for the ‘้วีซ่าอเมริกาจากประเทศไทย’ Category

26th December 2010

ผู้เขียนบล็อกนี้ได้รับข้อมูลมาจากการประกาศใช้กฎหมายของกฎระเบียบฉบับสุดท้ายที่เกี่ยวกับวีซ่าประเภท อี สอง สำหรับผู้ที่สนใจจะลงทุนและประกอบธุรกิจในคอมมอนเวลท์ของตอนเหนือของเกาะมารีน่า ข้อความต่อไปนี้อ้างโดยตรงจากเว็บไซต์ที่เป็นทางการของหน่วยบริการพลเมืองและคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา (USCIS):

วอชิงตัน- บริการพลเมืองและคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา (USCIS) ออกร่างกฎระเบียบสุดท้ายในทะเบียนของรัฐบาลกลางซึ่งมีประเภทของวีซ่าผู้ลงทุนประเภทผู้ที่ไม่มีถิ่นฐานถาวรในคอมมอนเวลท์ของตอนเหนือของเกาะมารีน่า วีซ่าลงทุนประเภท อี สอง ซีเอ็นเอ็มไอ (E-2 CNMI)อนุญาตให้นักลงทุนระยะยาวที่เป็นชาวต่างชาติที่จะพักอาศัยในคอมมอนเวลท์ของตอนเหนือของเกาะมารีน่าตลอดเดือนธันวาคม 2014 คำขอของวีซ่าลงทุนประเภท E-2 CNMI Investorจะได้รับการอนุมัติตั้งแต่ 18มกราคม 2011 คำขอที่ได้รับก่อนวันที่ 18 มกราคม 2011 จะได้รับการปฏิเสธ

อาศัยอำนาจตามความมในพระราชบัญญัติทรัพยากรธรรมชาติ (CNRA) ปี 2008 วีซ่าลงทุนประเภท E-2 CNMI นั้นมีอายุ 2 ปี และสามารถต่ออายุใหม่ได้ และสามารถใช้ได้ในคอมมอนเวลท์ในตอนเหนือของเกาะมารีน่าเท่านั้น คู่หมั้นและบุตรของผู้ลงทุนอาจจะยื่นขอวีซ่าโดยใช้สิทธิของผู้ลงทุนได้

สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับคอมมอนเวลท์ในตอนเหนือของเกาะมารีน่าควรจะระลึกไว้เสมอว่า เขตอำนาจนี้รวบรวมกลุ่มของเขตอำนาจศาลซึ่งใช้ประโยชน์จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิในการที่จะออกกฎและบังคับตามกฎหมายคนเข้าเมือง ในอดีต คอมมอนเวลท์ในตอนเหนือของเกาะมารีน่า (CNMI) ยังคงที่มีสถานะอิสระ แต่กฎระเบียบที่ร่างขึ้นมาใหม่นั้นคล้ายคลึงกับส่วนที่เหลือของสหรัฐอเมริกา

วีซ่าประเภท อี สองนั้นเป็นเอกสารการเดินทางที่มีประโยชน์สำหรับผู้ที่ประสงค์จะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา (หรือตามตัวอย่างนี้คือคอมมอนเวลท์ของตอนเหนือของเกาะมารีน่า)สำหรับวัตถุประสงค์ทางธุรกิจและการลงทุน อาจกล่าวได้ว่า วีซ่าประเภทอี สองนั้นเป็นประเภทวีซ่าของผู้ที่ไม่มีถิ่นฐานถาวร แตกต่างจากวีซ่าประเภท บี สอง (วีซ่าประเภทท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกา) วีซ่าประเภทอี สองนั้นมีสำหรับผู้ที่มีเจตนาสองอย่างในการเป็นเอกสารการเดินทางที่เหมือนกันกับวีซ่าประเภท แอล หนี่ง (L-1) หนึ่งในประโยชน์ของเอกสารการเดินทางประเภทนี้คือผู้สมัครไมว่จำต้องพิสูจน์ข้อสันนิษฐานของเจตนาที่กล่าวไว้ในมาตรา 214บี ตามพระราชบัญญัตขิสัญชาติและคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา

วีซ่าประเภทอี สอง (E-2)นั้นอาจจะเป็นที่สับสนกับวีซ่าประเภท EB-5 วีซ่าของสหรัฐอเมริกาประเภท EB-5เป็นวีซ่านักลงทุนผู้อพยพ ในการที่จะเป็นไปตามกฎหมายคนเข้าเมือง ผู้ยื่นคำของวีซ่าประเภท EB-5 นั้นเกี่ยวข้องกับสถานะของคนเข้าเมืองผู้มีภิ่นฐานถาวรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ควรระลึกว่า ขั้นตอนของวีซ่าประเภท EB-5 สามารถที่จะเริ่มต้นดำเนินการขอกับหน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา(USCIS) นอกจากนี้ผู้ที่กำลังมองหาวีซ่าประเภท EB-5 นั้นต้องอยู่ภายใต้ขั้นตอนของกงสุลที่สถานทูตสหรัฐอเมริกา สถานกงสุลสหรัฐ สถาบันของอเมริกัน หรือภารกิจของสหรัฐอเมริกาด้วยอำนาจทางกงสุลที่อยู่ในเขตอำนาจ ท้ายที่สุดแล้วศุลกากรสหรัฐอเมริกาและหน่วยรักษาดินแดนสหรัฐอเมริกา (USCBP) มีภาระหน้าที่ที่จะตรวจสอบและหาหนทางสำหรับการที่ชาวต่างชาติจะเข้ามายังสหรัฐอเมริกา ตามที่กล่าวมาแล้วข้างต้น จากการที่มีการเข้าเมืองเป็นไปอย่างถูกต้องตามมกฎหมาย ชาวต่างชาติที่อยู่ในสถานะของวีซ่า EB-5 จะได้รับการเป็นผู้มีถิ่นฐานถาวรในสหรัฐอเมริกา

To view this post in English please see: E-2 visa.

more Comments: 04

24th December 2010

เมื่อเร็วๆนี้การพัฒนาทางเศรษฐกิจได้สร้างความสับสนอลหม่านให้เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ความเห็นของผู้เขียนบล็อกนี้ประสงค์ที่จะเห็นมุมมองในแง่บวกของเศรษญกิจอเมริกา พื้นฐานของธุรกิจในสหรัฐอเมริกายังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่ดีที่สุดที่เป็นผู้นำทางธุรกิจในด้านการค้า การให้บริการ การผลิต อ้างจากเว็บไซต์ locationusa.comซึ่งมีการอภิปรายถึงเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

องค์กรรร่วมสหรัฐอเมริกาของบริษัทต่างชาติมีการจ้างงานคนอเมริกันมากกว่าห้าล้านคนและอีกหลายล้านคนโดยทางอ้อม ไม่มีข้อสงสัยที่ว่าทำไมการลงทุนในสหรัฐอเมริกาถึงมีสิทธิประโยชน์มากมาย ด้วยจำนวนประชากรที่มากกว่า 300 ล้านคนและระบบเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดที่สำคัญแห่งหนึ่งของบริษัททั่วโลก แรงงานอเมริกันถูกจัดอันดับว่า เป็นหนึ่งในด้านการให้การศึกษาที่ดีที่สุด มีศักยภาพในการผลิตมากที่สุดและมีความสร้างสรรค์มากที่สุดในโลก แหล่งที่ประกอบธุรกิจ สหรัฐอเมริกานั้นได้จัดให้มีระบบกฎหมายที่คาดการณ์และมีความโปร่งใส สาธารณูปโภคพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและเข้าถึงตลาดที่ทำกำไรที่ดีมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

แม้ว่ามันจะดูขัดกับสัญชาตญาณในครั้งแรก การเข้าเมืองตามกฎหมายนั้นมีผลกระทบในทางบวกต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นเป็นความจริงอย่างยิ่งที่ ผู้อพยพต่างลงทุนในระบบเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและก่อตั้งธุรกิจในอเมริกา หนึ่งในวิธีการพื้นฐานที่ผู้อพยพจะได้รับสิทธิประโยชน์ในประเทศมหรัฐอเมริกาคือการที่ชาวต่างชาติลงทุนโดยตรง เม็ดเงินที่ลงทุนในอเมริกานั้นอาจถูกมองว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าเงินหากมีการแข่งขันกันทั่วโลกในการลงทุนของต่างชาติในการลงทุนที่มีทั้งฝ่ายหนึ่งได้เปรียบและฝ่ายหนึ่งเสียเปรียบ นอกจากนั้นการลงทุนในสหรัฐอเมริกานั้นสามารถสร้างงาน ตามที่ได้กล่าวมาแล้วการลงทุนในอเมริกาเป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสมในการดำเนินกิจการทางธุรกิจโดยมีวัตถุประสงค์ที่ดึงดูดลูกค้าจากทั้งอเมริกาซึ่งเป็นตลาดที่มีแรงขับเคลื่อนจากผู้บริโภคสูงและทั่วโลก

วีซ่านักลงทุนประเภท EB-5นั้นเป็นเอกสารการเดินทางที่มีประโยชน์ต่อผู้ที่จะลงทุนและทำงานในสหรัฐอเมริกา วีซ่าประเภทนี้เป็นเอกสารการเดินทางที่ให้ผู้ถือกับพลเมืองที่มีถิ่นฐานถาวรในการเข้าเมืองอเมริกาอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่จุดคนเข้าเมือง ผู้ที่สนใจที่จะได้รับวีซ่าEB-5 ควรที่จะค้นหาข้อมูลและบันทึกข้อเท็จจริงว่าผู้ลงทุนที่เป็นผู้อพยพประสงค์ที่จะใช้วีซ่าEB-5ต้องลงทุนอย่างต่ำห้าแสนเหรียญสหรัฐ(500,000) สำหรับผู้ที่ไม่ได้ประลงค์จะลงทุนในแบบ EB-5 พึงระลึกว่า การลงทุนทั่วไปนั้นอย่างต่ำหนึ่งล้านเหรียญสหรัฐ (1,000,000)

สำหรับผู้ที่ประสงค์จะลงทุนในธุรกิจขนาดย่อมในสหรัฐอเมริกาอาจจะต้องการสิทธิประโยชน์จากวีซ่าอเมริกาประเภท E-2อาจจะใช้สำหรับการเดินทางไปสหรัฐอเมริกาไปต่างประเทศในการลงทุนไปยังสหรัฐอเมริกา สิ่งที่พึงระลึกคือ E-2เป็นวีซ่าประเภทไม่ใช่ผู้อพยพ ดังนั้นผู้ที่ประสงค์จะอพยพไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อที่จะพักอาศัยอาจจะไม่ได้รับการบริการเกี่ยวกับวีซ่า E-2

more Comments: 04

13th December 2010

ประเด็นเรื่องการฉ้อโกงในการเข้าเมืองเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเรื่องหนึ่ง เจ้าหน้าที่รัฐของสหรัฐอเมริกาในกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (USCIS) กระทรวงของรัฐ (DOS) หน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา (USCBP) และหน่วยบังคับการคนเข้าเมืองและศุลกากร(USICE)ทั้งหมดนี้อยู่ในความรับผิดชอบที่จะต้องตรวจสอบและสอบสวนเกี่ยวกับการฉ้อฉลเรื่องวีซ่าและการเข้าเมือง ผู้เขียนคิดว่ามีความน่าสนใจในเรื่องการบริการคนเข้าเมืองและการพิธีการทางศุลกากร ได้มีการอ้างอย่างเป็นทางการในฐานะ ICEถึงการจับกุมชาวไนจีเรียที่มีส่วนพัวพันกับการปลอมแปลงวีซ่าสหรัฐอเมริกา อ้างโดยตรงจากเว็บไซต์ ICE.gov

ฮูสตั้น- เมื่อวันจันทร์มีการถอนสัญชาติอเมริกันของชายชาวไนจีเรียที่ถูกตัดสินว่า สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อฉลการแต่งงาน ฉ้อฉลเรื่องแปลงสัญชาติ และปลอมแปลงข้อความต่างๆต่อตัวแทนของรัฐ คำตัดสินนี้ได้มมีการแถลงโดยทนายสหรัฐอเมริกาโจส์ แองเจิ้ล โมเรโน ทางใต้ของรัฐเท็กซัส การสอบสวนได้ดำเนินการโดยการบังคับการทางศุลกากรและคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา (ICE) สำนักงานการสอบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) อิบบราฮิม อดีนีน อายุ 33 ปีผู้ซึ่งมีถิ่นกำเนิดที่ไนจีเรียและได้รับการแปลงสัญชาติเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาถูกตัดสินโดยคณะลูกขุน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม เขาอยู่ในความควบคุมขอองส่วนกลางเป็นเวลา 6 เดือน ผู้พิพากษาเขตในสหรัฐอเมริกาเคนเนท ฮอทพิพากษาให้อดีนีนจำคุกในเรือนจำ ผู้พิพากษายังได้รับคำภร้องจากรัฐบาลให้ถอนสัญชาติสหรัฐอเมริกา อดีนีนยังถูกเนรเทศออกนอกประเทศด้วย

การทำให้ขาดสิทธิจากการเป็นพลเมืองเป็นกระบวนการที่บุคคลนั้นถูกถอนสัญชาติสหรัฐอเมริกาและกลับไปถือสัญชาติอื่น ในประเด็นของการปลอมแปลงการแต่งงานและกระบวนการเข้าเมมืองสหรัฐอเมริกา มีรายงานว่า

การสอบสวน ICE HIS เริ่มต้นเมื่อปี 2008 อดีนีนนั้นเกี่ยวพันกับการเป็นนายหน้าระหว่างคนสัญชาติไนจีเรียและพลเมืองสหรัฐอเมริกาเพื่อที่ว่าคนสัญชาติไนจีเรียจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเข้าเมือง ทั้งหมดนี้เพื่อนำไปสู่การเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา “คู่หมั้น”ชาวอเมริกันนั้นได้รับค่าตอบแทนในการหลอกลวงเป็นเงินสด

การร่วมมือกันฉ้อฉลเรื่องการแต่งงานในการที่จะได้รับสิทธิประโยชน์จากวีซ่าสหรัฐอเมริกานั้นเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงซึ่งเห็นได้จากรายงานที่กล่าวมาแล้วข้างบน ผู้ที่ประสงค์จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเข้าเมืองอเมริกันนั้นพึงระลึกไว้เสมอว่า การที่จะหลอกเจ้าหน้าที่การเข้าเมืองหรือพยายามที่จะหลอกลวงรัฐบาลสหรัฐอเมริกาหรือเจ้าหน้าที่ต่างๆนั้น ไม่ใช่วิธีที่ชาญฉลาด แม้ว่าจะกลายเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาแล้ว แต่การกระทำที่หลอกลวงในขั้นตอนการทำวีซ่านั้นอาจจะทำให้ถูกถอนสัญชาติและมีความผิดทางอาญา

เพื่อผลประโยชน์ทางวีซ่า ควรที่จะปรึกษาทนายอเมริกันที่มีใบอนุญาตเพื่อที่จะดำเนินการในเรื่องกระบวนการคนเข้าเมืองเพราะทนจายอเมริกันที่ได้รับอนุญาตและมีความเข้าใจอย่างถูกต้องอย่างน้อยในหนึ่งรัฐนั้นก็มีสิทธิที่จะให้คำแนะนำ คำปรึกษา หรือการดำเนินการแทน

To view this posting in English please see: Denaturalization.

more Comments: 04

9th December 2010

สำหรับผู้ที่ติดตามบล็อกอย่างต่อเนื่องคงไม่มีข้อสงสัยในเรื่องที่มีการถกเถียงกันเมื่อเร็วๆนี้เกี่ยวกับเรื่องการปฏิรูปการเข้าเมือง หน่วยบริการการวิจัยของสภานิติบัญญัติและสมาคมทนายความคนเข้าเมืองอเมริกันได้เผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับการไม่อนุญาตให้เข้าเมืองตามกฎหมายซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันในประเด็นของการปฏิรูปคนเข้าเมือง เอกสารอ้างอิงจากการตีพิมพ์โดยหน่วยบริการการวิจัยของสภานิติบัญญัติและสมาคมทนายความคนเข้าเมืองอเมริกัน

ตัวบทกฎหมายนี้มีวัตถุประสงค์ในการที่จะปฏิรูปการเข้าเมืองในมุมมองที่นอกเหนือจากชาวต่างชาติซึ่งมีการบัญญัติเมื่อปี 1990 ชาวต่างชาติที่ประสงค์จะขอวีซ่าต้องเผชิญกับการตรวจสอบการเข้าเมืองโดยเจ้าหน้าที่กงสุลของสหรัฐในต่างประเทศ กระบวนการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อตรวจสอบผู้ที่ขาดคุณสมบัติในการขอวีซ่าหรือการเข้าเมืองซึ่งมูลเหตุที่ไม่สามารถเข้าเมืองได้เป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยสัญชาติคนเข้าเมือง (INA)หลักเกณฑ์ต่างๆได้แก่ ข้อมูลด้านสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม ประวัติที่เกี่ยวกับความมั่นคง การก่อการร้าย ความสงบสุขของประเทศ เช่น ความขัดสน การหางานโดยไม่ได้รับใบอนุญาตแรงงาน การเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและการละเมิดกฎหมายคนเข้าเมือง การขาดคุณสมบัติในการถือสัญชาติ และคนต่างด้าวที่ถูกเนรเทศออกไป หลายปีที่ผ่านมา สภานิติบัญญัติยังคงยึดหลักการเดิมในการที่จะไม่อนุญาตให้เข้าเมือง กฎหมายสองฉบับที่บังคับใช้เป็นปีที่ 110 สภานิติบัญญัติยังคงยึดนโยบายเดิมในการกีดกันคนต่างด้าวที่เป็นสมาชิกของการก่อการร้าย

การก่อการร้ายเป็นปัจจัยสำคัญที่เจ้าหน้าที่รัฐของอเมริกาได้เชื่อมโยงถึงองค์กรต่างๆที่เกี่ยวกับการเข้าเมืองและการเดินทางมายังสหรัฐอเมริกา ความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประเทศเป็นประเด็นสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่กงสุลและคนเข้าเมืองอเมริกัน อ้างถึงการเผยแพร่ข้อความที่กล่าวถึงแล้ว ดังนี้

ปีที่ 110ของสภานิติบัญญัตินั้นมีประเด็นของการไม่ให้เข้าเมืองของประเด็นเรื่องของสุขภาพกลับมาอีกครั้งคือเรื่องของผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี หรือเอดส์ เมื่อเร็วๆนี้มีประเด็นในเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์เอช 5 เอ็น 1 ซึ่งก็กลายเป็นประเด็นหนึ่งที่คัดกรองในด่านคนเข้าเมือง มีคำถามมากมายเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมในเรื่องการเข้าเมืองที่เกี่ยวกับบริบททางด้านสุขภาพและแผนการประกันสุขภาพของเยาวชนในปีที่ 111ของสภานิติบัญญัติ

ไข้หวัดใหญ่เป็นประเด็นทางด้านสุขภาพที่มีการตระหนักถึงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการเพิกถอน โรคเอดส์ออกจากรายชื่อโรคที่ไม่สามารถเข้าเมืองได้ให้กลายเป็นสามารถเข้าเมืองได้หลังจากที่ผู้ที่ติดเชื้อเอดส์ไม่สามารถที่จะเข้าสหรัฐอเมริกาได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงในหมู่ของเพศที่สาม เลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล (LGBT) ในฐานะที่เชื้อเอชไอวีและเชื้อเอดส์ดูเหมือนว่าจะเป็นประเด็นที่มีผลกระทบต่อกลุ่มคนหรือคู่ในหมู่รักร่วมเพศ รายงานนี้เป็นประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกับการอภิปรายเรื่องการร่างกฎหมายเพื่อการปฏิรูปการเข้าเมือง

ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงเหตุที่จะไม่สามารถเข้าเมืองได้นั้นไม่เป็นที่ปรากฎ ผู้ที่สนับสนุนการปฏิรูปการเข้าเมืองอาจจะมองหาทางที่จะยกเลิกบทบัญญัติบางมาตราในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอในการร่างกฎหมายเพื่อการปฏิรูปการเข้าเมือง บทบัญญัติที่ให้ชาวต่างด้าวผู้ที่ไม่สามารถเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตัวอย่างเช่น อาจจะได้รับการระงับไว้ชั่วคราวในส่วนหนึ่งของการร่างกฎหมาย ต้องมีเหตุผลที่หนักแน่นสำหรับการไม่สามารถเข้าเมืองได้ ในทางกลับกันอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานการร่างกฎหมายในหมู่ของผู้ที่สนับสนุนนโยบายการปฏิรูปการเข้าเมืองที่เข้มงวด

ทุกๆปีนั้นจะมีผู้คนจำนวนมากที่ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ท่ามกลางการที่ไม่สามารถเข้าเมืองได้นั้นผู้ที่ไม่สามารถเข้าเมืองได้จะหาทางแก้ไขในการเลือกที่จะขอยกเว้นสิทธิผ่านทาง I-601 หรือ I-212โดยการขออนุญาตล่วงหน้าที่จะเดินทางเข้าไปยังสหรัฐอเมริกาอีกครั้งหนึ่ง สำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าเมืองได้และไม่สามารถที่จะขอยกเว้นสิทธิได้อย่างไม่เป็นทางการซึ่งถูกกีดกันจากสหรัฐอเมริกา สิ่งที่พึงระลึกไว้คือ การที่ไม่สามารถเข้าเมืองได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้นยังคงมีทางแก้ไขคือ การขอยกเว้นสิทธิ อาจกล่าวได้ว่า ขั้นตอนการยกเว้นสิทธิและมาตรฐานในการตรวจสอบการได้รับการยกเว้นสิทธินั้นค่อนข้างที่จะยุ่งยาก ด้วยเหตุผลดังกล่าว คู่สองสัญชาติหลายๆคู่เลือกที่จะใช้บริการทนายความคนเข้าเมืองอเมริกันเพื่อที่จะช่วยดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับการเข้าเมืองอเมริกัน สิ่งที่ควรกระทำคือการตรวจสอบความน่าเชื่อถือในการเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฎหมายคนเข้าเมืองอเมริกา เนื่องจากว่าทนายความอเมริกันที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่มีสิทธิที่จะให้คำแนะนำ คำปรึกษาและเป็นตัวแทนในการจัดการเรื่องก่อนที่จะเข้าไปสู่ขั้นตอนของหน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา (USCIS) กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และหน่วยงานของสหรัฐอเมริกา

To view this information in English please refer to the previous posting on this blog.

more Comments: 04

7th December 2010

นอกจากนี้ ภาษากฎหมายที่นักกฎหมายฝ่ายรัฐบาลใช้ในศาลในการที่จะแบ่งแยกคำตัดสินที่เกี่ยวกับการค้นหาข้อเท็จจริงโดยอัยการเป็นไปด้วยความระมัดระวังและลบล้างคำวินิจฉัยทั้งหมดจากความเห็นทางกฎหมาย นั่นเป็นการแปลความที่ไม่สมเหตุสมผลตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองและสัญชาติซึ่งมองไปข้างหน้าถึงมาตรฐานของข้อเท็จจริงการพิจารณากระบวนการเพิกถอน

จากการรวบรวมข้างต้น สถานะของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาในการที่จะปฏิเสธคำขอ I-130 คือ ในพฤติการณ์ที่ศาลไม่สามารถที่จะทบทวนคำวินิจฉัยที่วินิจฉัยโดยผู้มีอำนาจในหน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองของสหรัฐอเมริกา (USCIS) เป็นประเด็นที่น่าสนใจว่า ศาลไม่ถูกชักจูงโดยข้อโต้เถียงและการทบทวนคำวินิจฉัย แม้แต่คำคัดค้านของรัฐบาล

สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับกระบวนการทำวีซ่าสหรัฐอเมริกา คำขอ I-130 นั้นเป็นขั้นตอนแรกที่จะทำให้คนต่างด้าวมีความเกี่ยวพันนกับสหรัฐอเมริกา คำขอนั้นใช้เพื่อผู้ที่ประสงค์จะพาคู่หมั้นชาวต่างชาติไปสหรัฐอเมริกา ในกรณีที่คำขอ I-130 ได้รับการอนุมัติ เรื่องที่ได้รับการอนุมัตินั้นจะถูกส่งต่อไปยังศูนย์บริการทางวีซ่า (NVC)ซึ่งเป็นตัวแทนภายใต้กงสุลสหรัฐอเมริกาในโฮจิมินห์ซิตี้ทาง NVC ในขณะเดียวกัน คู่หมั้นชาวไทยมีแนวโน้มที่จะดำเนินการในการขอวีซ่าโดยติดต่อทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาในกรุงเทพฯโดยทางศูนย์บริการวีซ่า คู่หมั้นชาวจีนอาจจะดำเนินการในสถางกงสุลสหรัฐอเมริกาในจีนหรือสถานทูตสหรัฐอเมริกาในปักกิ่ง เช่นเดียวกันกับอินเดีย ภารกิจของสหรัฐอเมริกาในทั้งสองประเทศมีการเปลี่ยนแปปลงที่สำคัญเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่จะทำวีซ่าหลังจากกระบวนการของ NVC

ประเด็นเกี่ยวกับความเห็นทางกฎหมายในทางกฎหมายคนเข้าเมืองเป็นเรื่องที่ซับซ้อนเรื่องหนึ่ง ดังนั้นองค์ประกอบต่างๆของกระบวนการทำวีซ่าอาจจะมีความหลากหลายในประเด็นทางกฎหมายขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ในแต่ละเรื่อง สำหรับเหตุผลนี้คู่สองสัญชาตินั้นควรเลือกที่จะให้ทนายความช่วยจัดการในการขอยื่นคำขอวีซ่าและผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับอนุญาตนั้นสามารถที่จะดำเนินการทุกขั้นตอนและจัดการให้เป็นไปตามกระบวนการขอวีซ่าได้อย่างครบถ้วน

To see this information in English please refer to the previous blog posting.

more Comments: 04

10th November 2010

เนื่องจากหัวข้อเรื่องวีซ่าการลงทุนอเมริกันได้เผยแพร่ในบล็อกนี้ ผู้เขียนจึงได้รับคำถามที่เกี่ยวกับทางปฏิบัติที่จะขอวีซ่าเพื่อการลงทุนในสหรัฐอเมริกา คำถามที่มีการถามมากที่สุดคือ การขอวีซ่า EB-5 “ฉันสามารถที่จะเป็นพลเมืองอเมริกันโดยการลงทุนในสหรัฐอเมริกาได้หรือไม่” คำตอบสำหรับคำถามนี้………………และต้องใช้ความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับวีซ่าผู้ลงทุนถาวรประเภท EB-5 และขั้นตอนการขอวีซ่าดังกล่าว

หลายๆประเทศทั่วโลกมีแผนงานที่เปิดอกาสให้นักลงทุนสามารถที่จะได้รับสัญชาติทันทีที่ลงทุนในระบบเศรษฐกิจของประเทศนั้นโดยการออกเอกสารสัญชาติ ในสหรัฐอเมริกานั้นไม่มีแผนงานเช่นนั้น แต่อย่างไรก็ตาม วีซ่าประเภทEB-5 ให้สิทธิแก่ผู้ถือวีซ่าในการเป็นผู้มีถิ่นฐานถาวรในสหรัฐอเมริกาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อันเป็นสิทธิประโยชน์ที่สำคัญ และไม่ควรที่จะให้สิทธิแก่ผู้มีถิ่นฐานถาวรมากเกินไปหลังจากที่สถานะนี้อนุญาตให้ผู้มีถิ่นฐานถาวรอยู่อาศัยและทำงานในสหรัฐอเมริกา หลายๆคนกล่าวถึงผู้ที่มีถิ่นฐานถาวรประเภท “กรีนการ์ด” อาจกล่าวได้ว่า ผู้มีถิ่นฐานถาวรในสหรัฐอเมริกาไม่ใช่พลเมืองสัญชาติอเมริกัน ผู้ที่อยู่ในสถานะกรีนการ์ดไม่ได้รับสิทธิในการลงคะแนนเลือกตั้ง สมัครเข้าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และไม่สามารถถือหนังสือเดินทางอเมริกัน แม้ว่าผู้ที่มีถิ่นฐานถาวรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย (LPR) อาจจะได้รับการอนุญาตให้เข้าออกสหรัฐอเมริกาซึ่งอนุญาตให้บุคคลดังกล่าวออกจากสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 2 ปีโดยไม่ต้องมีข้อสันนิษฐานที่จะยกเลิกการเป็นผู้มีถิ่นฐานได้

แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะไม่มีแผนงานสำหรับ “การได้รับสัญชาติโดยการลงทุน” แต่วีซ่าประเภท EB-5นั้นเป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการแปลงสัญชาติ ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ลงทุนถาวรได้รับวีซ่าประเถ้าผู้ลงทุนถาวรได้รับวีซ่าประเภท EB-5และเดินทางเข้ามายังสหรัฐอเมริกาหลังจากนั้นบุคคลดังกล่าวสามารถได้รับสิทธิที่จะเป็นผู้มีถิ่นฐานถาวรในการเข้าเมืองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในกฎหมายและเป็นไปตามข้อสันนิษฐานซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ถือวีซ่าประเภท EB-5ต้องจัดการเพื่อการแปลงสัญชาติ การแปลงสัญชาตินั้นเป็นกระบวนการที่ชาวต่างชาตินั้นเป็นพลเมืองสัญชาติอเมริกัน กระบวนการนี้ค่อนข้างที่จะมีความยุ่งยากและเป็นเรื่องที่ดูเหมือนจะซับซ้อนและสร้างความผิดหวังอยู่หลายๆครั้ง สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการจัดการเรื่องการเข้าเมือง แต่ในทางทฤษฎีการอนุมัติคำขอในการแปลงสัญชาติของผู้ลงทุนถาวรประเภท EB-5สามารถที่จะเป็นพลเมืองสัญชาติอเมริกันได้

แม้ว่าสหรัฐอเมริกาไม่ได้มีข้อเสนอที่จะให้ “สัญชาติโดยการลงทุน” แต่สหรัฐอเมริกามีการให้ “วิธีการที่จะได้รับสัญชาติโดยการลงทุน” ในรูปแบบของวีซ่าประเภท EB-5ซึ่งเป็นทางที่ทำให้ผู้ถือวีซ่าประเภทดังกล่าวมีโอกาสที่จะได้รัยสัญชาติอเมริกันซึ่งจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์อื่นๆและจะต้องปรากฏตัวตนอยู่

To view this information in English, please see the previous post on this blog.

more Comments: 04

8th November 2010

แม้ว่าบล็อกนี้แทบจะไม่ค่อยมีการถกเถียงเรื่อง ประเด็นเศรษฐกิจ แต่เมื่อเรื่องเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อประเด็นทางกฎหมาย หรือการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาซึ่งทำให้การถกเถียงกันในประเด็นนี้เป็นเรื่องที่จำเป็น หลายเดือนที่ผ่านมา เงินดอลลาห์สหรัฐอเมริกาทำให้ค่าเงินของประเทศต่างๆในเอเชียลดลง แต่ไม่ทำให้ค่าเงินหยวนลอยตัวเหมือนเงินสกุลอื่นๆ โดยสรุปแล้ว ภาวะความตึงเครียดทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ระหว่างสหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน  ราชอาณาจักรไทย และชาติอื่นๆในเอเชีย ในขณะเดียวกัน ค่าเงินของบางประเทศสมาชิกสมาคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ก็เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาห์สหรัฐ ในบทบรรณาธิการที่กล่าวไว้ใน ThaiVisa.com

ในหลายๆสถานการณ์ที่เงินดอลลาห์กำลังดิ่งลง ค่าเงินดอลลาห์ตกไปอยู่จุดต่ำที่สุดในรอบห้าเดือนเมื่อเปรียบเทียบกับเงินยูโร  ทองคำซึ่งเป็นเครื่องที่กีดขวางความคาดหวังความเฟ้อในอนาคตสามารถก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในการคาดการณ์ล่วงหน้าของตลาดซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เต็มไปด้วยระบบทางการเงินที่มีความคล่องตัวกว่าในเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

การบรรเทาทางการเงินจะส่งผลให้เงินดอลลาห์สหรัฐอ่อนค่าลงมากขึ้น และรัฐบาลสหรัฐดำเนินมาตรการขาดดุล ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ก็ดำเนินการตามเพื่อช่วยเหลือการซื้อเงินทุนในภาวะขาดดุลซึ่งไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงในอนาคตที่สามารถคาดการณ์ได้เนื่องจากความไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รายได้จากภาษีที่ลดลง และภาระหนี้ที่เพิ่มมากขึ้น

ความไม่มั่นคงของสหรัฐอเมริกา วิกฤตการณ์หนี้ในยุโรปและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ประเทศไทยจะจัดการกับนโยบายที่ท้าทายนี้อย่างไร สิ่งแรกคือค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เงินบาทนั้นกำลังกลับไปสู่ยุคของก่อนวิกฤตการณ์ปี 1997ในระดับที่ 25 บาทต่อหนึ่งดอลลาห์

สิ่งที่ควรตระหนักถึงคือ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐประกาศว่า จะอัดฉีดเงินจำนวนหกพันล้านดอลลาห์สหรัฐในช่วงหลายๆเดือน ตามที่ได้รวบรวมจากข้อความที่มีการรอ้างถึงข้างบน นโยบายการบรรเทาเชิงปริมาณส่งผลให้ค่าเงินดอลลาห์ลดลลงเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินของเอเชีย (และสกุลเงินอื่นๆทั่วโลก แต่บทความนี้มุ่งเน้นไปที่เอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย) ในบทความที่เขียนลงในหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นและเผยแพร่ใน ThaiVisa.com รายละเอียดการถกเถียงประเด็นนี้มี ดังนี้

เมื่อเงินทุนหลั่งไหลจากสหรัฐอเมริกามาสู่เอเชียในปริมาณมาก ส่วนมากไม่สามารถไหลไปยังจีน ดังนั้นจึงเงินจึงอยู่ในตลาดที่ปรากฏออกมาเช่นประเทศอาเซียน กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศไทย กล่าว

“พวกเรา สองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่มีความแตกต่างในประเด็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ผมคิดว่า พวกเขาเข้าใจสถานการณ์ที่ลำบาก”นายกร์กล่าว

ค่าของเงินดอลลาห์สหรัฐยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ค่าเงินหยวนของจีนยังไม่เพิ่มขึ้น ประกาศการบรรเทาเชิงปริมาณของสหรัฐฉบับล่าสุดมีจุดมุ่งหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจภายในของสหรัฐ ค่าของเงินในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อต้านกับสหรัฐ ค่าของเงินที่สูงขึ้นนี้ต้องตระหนักถึงการแข่งขันเรื่องการส่งออก

สองยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจ จีนและอเมริกาต่างมีความเสมอภาคกันในทางค่าของเงินและการค้า แต่ประเด็นที่ส่งผลกับคนไทยคือการเพิ่มขึ้นขิงค่าเงินบาท หลายๆคนมองว่า ไม่ได้สนใจในเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นและมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ พวกเขาอาจจะคิดถูก อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของค่าเงินที่ผ่านมานั้นสามารรถพิสูจน์ได้ว่า เป็นประโยชน์ต่อคนไทยที่ต้องการวีซ่าผู้ลงทุนในสหรัฐอเมริกา

วีซ่าสหรัฐอเมริกาประเภทEB-5(ประเภทการลงทุนผู้ที่มีถิ่นฐานถาวร)นั้นเป็นเอกสารการเดินทางและผู้ที่อาศัยอยู่ถาวรอย่างถูกต้องตามกฎหมายในการลงทุนที่สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ค่าเงินบาทสูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาห์สหรัฐซึ่งกลายมาเป็น “ถูกขึ้น” (ในมุมมองของเงินบาท)เพื่อที่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์การลงทุนในสหรัฐ ดังนั้นเงินดอลลาห์กลายมาเป็นอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาทไทยซึ่งกลายมาเป็นแพงกว่าเล็กน้อยจากมุมมองของเงินบาทเพื่อที่จะลงทุนในสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ที่ปรารถนาที่จะตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกา อัตราแลกเลี่ยนเงินบาทต่อเงินดอลลาห์เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง

นี่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเพราะการลงทุนในสหรัฐนำไปสู่การจ้างงานใหม่ นอกจากนี้ การเข้าเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอเมริกา ความเข้มแข็งกว่าที่ว่า เศรษฐกิจกลายมาเป็นตัวกระตุ้นที่จะช่วยให้เศรษฐกิจโดยรวมมของอเมริกาฟื้นขึ้น อาจจะทำให้ภาคประชาชนและธุรกิจในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกได้รับผลประโยชน์มากขึ้นด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานการณ์นี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และช่วยฟื้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา

To view this information in English please see the previous posting.

more Comments: 04

6th November 2010

การที่ผู้ตรวจการของการบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐ (USCIS)มีข้อแนะนำเกี่ยวกับกระบวนการละเว้นของ I-601 เป็นเรื่องที่สร้างความน่าสนใจให้แก่ผู้ที่ติดตามบล็อก อ้างโดยตรงจากบันทึกความเข้าใจที่ผู้อำนวยการ USCIS คือ อเลเจนโดร์ เอ็น มาโยกาส ส่งไปยัง ผู้ตรวจการ CIS เมื่อเดือนมกราคม

ผู้ตรวจการ CISแนะนำว่า USCIS :

รวมศูนย์กลางการดำเนินการในทุกแบบฟอร์มI-601 เพื่อที่จะส่งให้เร็วขึ้นและมีคำวินิจฉัยที่เป็นมาตรฐาน;

จัดให้มีการกรอกแบบฟอร์ม I-601และฟอร์ม I-130 คำขอสำหรับญาติของคนต่างด้าว

จัดลำดับความเสร็จสมบูรณ์ของการจัดการเรื่องที่อยู่ต่างประเทศ (การพัฒนา) เพื่อที่จะรายงานทางสถิติที่ถูกต้องของฟอร์ม I-601 ในการอนุญาต (1) เขียนขั้นตอน (2)การติดตามโดยทาง “สถานะเรื่องของฉัน” ทางเว็บไซต์ USCIS

เผยแพร่คำแนะนำที่จะเสนอแนะแนวทางแก่ลูกความที่มีความประสงค์จะทำให้ขั้นตอนของฟอร์ม I-601เป็นไปอย่างรวดเร็ว

พัฒนาการทำงานร่วมกันระหว่าง DOS เจ้าหน้าที่กงสุล และ ผู้ที่มีอำนาจตัดสินที่จัดการเกี่ยวกับฟอร์มI-601 ที่ CDJ และ

แก้ไขนโยบายของสำนักงาน CDJที่อนุญาตให้ลูกจ้างUSCIS เรียกร้องแฟ้มของชาวต่างชาติแปลงเป็นรูปแบบดิจิตอล(A-files)โดยขึ้นอยู่กับใบเสร็จรับเงินของตารางการสัมภาษณ์

บางประเด็นนั้นอาจเป็นเรื่องที่เกิดก่อนการจัดตั้งการบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐ หรือสถานทูตสหรัฐ หรือสถานกงสุลสหรัฐในต่างประเทศ บันทึกที่ได้กล่าวมาแล้วค่อนข้างครอบคลุมและหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาได้จากบันทึกออนไลน์ อาจกล่าวได้ว่า USCIS ได้โต้ตอบในหลายๆประเด็นที่ผู้ตรวจการยกขึ้นมา ตามตัวอย่างข้างล่างนี้

รวมศูนย์กลางการดำเนินการในทุกแบบฟอร์มI-601 เพื่อที่จะส่งให้เร็วขึ้นและมีคำวินิจฉัยที่เป็นมาตรฐาน;

USCIS โต้ตอบ: USCIS เห็นด้วยในบางส่วน

USCIS กำลังประเมินความแตกต่างของรูปแบบการจัดระบบของกระบวนการจัดการฟอร์ม I-601 ข้ามประเทศ ด้วยวัตถุประสงค์ที่สร้างความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ การใช้ทรัพยากรที่เหมาะสม และลดขั้นตอนการทำงานของเรื่องที่ไม่สามารถได้รับการอนุมัติอย่างรวดเร็ว ในขณะที่การรวมศูนย์กลางเป็นรูปแบบหนึ่งที่จะนำไปสู่เป้าหมาย รูปแบบอื่นๆ ตัวอย่างเช่น สองวัตถุประสงค์เฉพาะ (เช่นกระบวนการเฉพาะสำหรับฟอร์มในสองประเทศเท่านั้น) อาจจะได้รับประโยชน์บางอย่าง

บันทึกได้รับการตอบเพิ่มเติม:

จัดให้มีการกรอกแบบฟอร์ม I-601และฟอร์ม I-130 คำขอสำหรับญาติของคนต่างด้าว ร่วมกัน

USCIS โต้ตอบ: USCIS กำลังพิจารณาข้อแนะนำนี้

ในเดือนเมษายน 2010, USCIS จัดตั้งคณะทำงานภายใต้การนำของสำนักงานนโยบายและโครงสร้างที่จะสำรวจการรวบรวมการกรอกฟอร์มและความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ เพราะการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการของเราสามารถส่งผลที่ไม่สามารถคาดล่วงหน้า ต้องทำให้เสร็จเรียบร้อยตามรูปแบบซึ่งเป็นไปด้วยความระมัดระวังในการจัดการความคาดหวังของผู้ยื่นคำขอและทรัพยากรของUSCIS คณะทำงานมุ่งเน้นไปที่การประเมินความเป็นไปได้และประโยชน์ที่ได้รับในการเปลี่ยนแปลงกระบวนการที่สำคัญ

คำแนะนำที่สามารถพิสูจน์ความน่าสนใจในทางปฏิบัติในขณะที่การรวบรวมการกรอกฟอร์มไว้ที่จุดเดียวอาจจะไม่มีความเป็นไปได้  ลักษณะของการกล่าวอ้างข้างบนนี้บอกเป็นนัยว่า ก่อนที่จะมีคำแนะนำนี้ได้มีการศึกษาอย่างจริงจัง ในขณะเดียวกัน ภายใต้กระบวนการในปัจจุบันมีผู้ที่ประสงค์จะละเว้นเรื่อง I-601 นอกสหรัฐอเมริกาต้องถือว่าไม่สามารถได้รับคำวินิจฉัยโดยเจ้าหน้าที่กงสุลตามปฏิบัติการของสหรัฐอเมริกา สถานทูตสหรัฐอเมริกา สถานกงสุลสหรัฐอเมริกา ดังนั้น การยื่นคำพร้อมกันตามที่กล่าวข้างต้นนั้นอาจจะไม่สอดคล้องกับกระบวนการในปัจจุบัน

จัดลำดับความเสร็จสมบูรณ์ของการจัดการเรื่องที่อยู่ต่างประเทศ (การพัฒนา) เพื่อที่จะรายงานทางสถิติที่ถูกต้องของฟอร์ม I-601 ในการอนุญาต (1) เขียนขั้นตอน (2)การติดตามโดยทาง “สถานะเรื่องของฉัน” ทางเว็บไซต์ USCIS

USCIS โต้ตอบ: USCIS เห็นด้วย

USCIS รายงานว่าระบบการจัดการเรื่องของ USCIS ในต่างประเทศซึ่งมีตัวแทนที่สำคัญในช่วง FY2010 ซึ่งใช้พนักงานปฏิบัติการระหว่างประเทศในวันที่ 16 สิงหาคม 2553

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า วิธีการนี้จะนำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการเข้าเมืองของสหรัฐอเมริกาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เผยแพร่คำแนะนำที่จะเสนอแนะแนวทางแก่ลูกความที่มีความประสงค์จะทำให้ขั้นตอนของฟอร์ม I-601เป็นไปอย่างรวดเร็ว

USCIS โต้ตอบ: USCIS เห็นด้วย

USCIS อยู่ในระหว่างการปรับปรุงคู่มือการปฏิบัติการของภาคส่วนที่ดำเนินการระหว่างประเทศเกี่ยวกับคำวินิจฉัยฟอร์ม I-601ที่จะจัดการกับคำร้องที่ขอให้ช่วยเร่งให้กระบวนการต่างๆเร็วขึ้น

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือใหม่นี้ที่เกี่ยวกับการเร่งให้ขั้นตอนรวดเร็วขึ้นจะช่วยให้ผู้ยื่นคำขอและผู้ที่ได้รับผลประโยชน์เข้าใจถึงการยื่นคำร้องเพื่อที่จะทำให้กระบวนการรวดเร็วขึ้นในเรื่องที่สมควร

พัฒนาการทำงานร่วมกันระหว่าง DOS เจ้าหน้าที่กงสุล และ ผู้ที่มีอำนาจตัดสินที่จัดการเกี่ยวกับฟอร์มI-601 ที่ CDJ

USCIS โต้ตอบ: USCIS เห็นด้วย

USCIS เห็นด้วยว่า DOS เจ้าหน้าที่กงสุล และ ผู้ที่มีอำนาจวินิจฉัยของ USCIS ควรจะรักษาความร่วมมื่อที่แนบแน่นที่ CDJ และที่อื่นๆที่อยู่ต่างประเทศ สำนักงานของUSCISที่อยู่ต่างประเทศนั้นได้รับความร่วมมือจากผู้ร่วมงานDOS ใน CDJ เจ้าหน้าที่กงสุล DOS และผู้ที่มีอำนาจวินิจฉัยของ USCISมีการปรึกษาหารือกันทุกวันผู้อำนวยการของ USCIS CDJ และหัวหน้าวีซ่าประเภทถาวรยังคงติดต่อกันอยู่ทุกวัน

.ในหลายๆวิธี ความร่วมมือระหว่างเจ้าหน้าที่ของตัวเทนของรัฐบาลที่แตกต่างกันเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดของการการปรับปรุงพัฒนากระบวนการขอวีซ่าให้ดีขึ้น แม้ว่า ผู้ที่เข้าใจในกระบวนการละเว้นของกระบวนการ  I-601 นั้นต้องระลึกว่า เจ้าหน้าที่กงสุลและเจ้าหน้าที่USCIS ต้องยังคงต้องทำหน้าที่ต่อไป

แก้ไขนโยบายของสำนักงาน CDJที่อนุญาตให้ลูกจ้างUSCIS เรียกร้องแฟ้มของชาวต่างชาติแปลงเป็นรูปแบบดิจิตอล(A-files)โดยขึ้นอยู่กับใบเสร็จรับเงินของตารางการสัมภาษณ์

USCIS โต้ตอบ: USCIS เห็นด้วยบางส่วน

USCIS เห็นด้วยว่า กระบวนการวินิจฉัยควรจะเรียกร้องบันทึก A-file(ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบดิจิตอล หรือต้นฉบับก็ตามและเป็นวิธีการประเมินเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายโดยปราศจากความล่าช้า

แม้ว่าบันทึกแบบดิจิตอลจะมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ต้องใช้เวลากว่าจะบรรลุผลตามคำแนะนำ

กระบวนการการขอวีซ่า หรือการขอละเว้นของการไม่สามารถได้รับ I-601นั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจยากสำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับกระบวนการคนเข้าเมือง ในหลายๆเรื่องที่เกี่ยวกับการขอละเว้นของ I-601 แต่ละคนหรือหลายๆคู่เลือกที่จะขอความช่วยเหลือจากทนายความอเมริกันที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาและได้รับอนุญาตที่ให้คำแนะนำและคำปรึกษาที่เหมาะสมกับประเภทการเดินทางและการขอละเว้นการไม่สามารถเดินทางไปสหรัฐอเมริกาได้

To read this post in English please see: I-601 waiver.

more Comments: 04

4th November 2010

การบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองอเมริกัน (USCIS) รับผิดชอบในการวินิจฉัยและขั้นตอนการทำคำขอเพื่อสิทธิประโยชน์คนเข้าเมืองอเมริกัน เรื่องหลักๆส่วนมากแล้ว ผู้ยื่นคำขอประสงค์ที่จะยื่นคำขอในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามในบางกรณี อาจมีความเป็นไปได้ที่การยื่นขอสิทธิประโยชน์ของวีซ่าคู่แต่งงานอาจยื่นที่สำนักงานUSCISที่อยู่ต่างประเทศ หรือยื่นโดยตรงที่กงสุลอเมริกา สถานทูตที่อยู่ต่างประเทศ

ภาคส่วนการปฏิบัติการ USCIS ระหว่างประเทศ สำนักงานนโยบายเละโครงสร้าง สำนักงานความผูกพันสาธารณะเชิญคุณเข้าร่วมในการประชุมทางไกลเพื่อที่จะอภิปรายถึงการเปลี่ยนแปลงในการวินิจฉัยฟอร์ม I-130 คำร้องของญาติคนต่างชาติซึ่งยื่นโดยผู้ยื่นคำขอที่พักอาศัยอยู่ต่างประเทศ ในเวลานี้ ผู้ยื่นคำขอที่อาศัยอยู่นอกสหรัฐอเมริกาอาจจะยื่นฟอร์ม I-130 และคำขอนั้นจะวินิจฉัยโดยสำนักงาน USCIS หรือกงสุลอเมริกันที่อยู่ในต่างประเทศ USCIS กำลังทบทวนทางเลือกที่จะมีการวินิจฉัยฟอร์มI-130อย่างเป็นการภายใน ในระหว่างช่วงนี้ USCISจะจัดการภาพรวมที่อาจจะกระทบต่อการยื่นแบบฟอร์มและคำวินิจฉัยในขณะเดียวกับการตอบคำถามและคลายความกังวลจากผู้ถือผลประโยชน์

ไม่ว่านโยบายที่เสนอไปนั้นจะเกิดผลหรือไม่ แต่ถ้านโยบายนี้มีผลบังคับใช้แล้ว การทำวีซ่าถาวรจะมีความเป็นไปได้ที่จะยื่นขอรับผลประโยชน์วีซ่าในสหรัฐอเมริกา

ขั้นตอนการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกานั้นขึ้นอยู่กัข้อเท็จจริงที่หลากหลายและประเภทของวีซ่า ดังนั้นผู้ที่มองหาวีซ่าประเภท CR1 หรือ IR1จะไม่ต้องประสบกับขั้นตอนเดียวกับผู้ที่กำลังทำวีซ่าประเภท K1 ผู้ที่กำลังจะมองหาสิทธิประโยชน์ของวีซ่าประเภทไม่ถาวรในขณะเดียวกันผู้ยื่นคำขอก็ไม่ประสงค์ที่จะเริ่มยื่นคำขอเกี่ยวกวับการเข้าเมืองในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม ผู้ยื่นคำขอสำหรับวีซ่าประเภทไม่ถาวรจะต้องได้รับการตรวจสอบตามบทบัญญัติมาตรา 214บี พระราชบัญญํติสัญชาติและคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาซึ่งมีแนวโน้มที่อาจจะได้รับการปฏิเสธวีซ่าเมื่อเปรียบเทียบวีซ่าประเภทอื่น

หลายๆคนอาจจะสนใจที่จะใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญในกระบวนการเข้าเมืองในขณะเดียวกับการหาคำแนะนำที่น่าเชื่อถือจากผู้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับกฎหมายคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา ทนายความอเมริกันเท่านั้นที่จะมีสิทธิที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการให้คำแนะนำและคำปรึกษาในเรื่องการเข้าเมือง

To read this post in English please refer to the previous posting on this blog.

more Comments: 04

1st November 2010

เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน บางเว็บไซต์ได้นำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบันทึกจากหน่วยบริการพลเมืองสหรัฐอเมริกาและคนเข้าเมือง (USCIS) ซึ่งปราศรัยต่อหน้าสื่อมวลชนและมีความสัมพันธ์กันในบริบทของการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา อ้างถึงบางส่วนของบันทึกดังกล่าวซึ่งปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ EFF.org (มูลนิธิขอบเขตความรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์):

อินเตอร์เน็ตมีส่วนช่วยทำให้ผู้คนติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้นไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่อยู่ห่างไกลกัน เพื่อน หรือการมองหาความรักและวามสัมพันธ์ใหม่ๆ เครือข่ายทางสังคมเช่น MySpace, Facebook, Classmates, Hi-5 และไซต์อื่นๆนั้นถูกออกแบบมาเพื่อที่จะแลกเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ รูปภาพและข้อมูลต่างๆกับคนอื่น ในบางครั้ง หลายๆคนตามหาความโรแมนติก บางครั้งหลายๆคนมองหาเพื่อนที่มีความสนใจคล้ายๆกันและบางครั้งพวกเขาก็ใช้เป็นสื่อในการเข้าถึงครอบครัว ทั้งหมดนี้เป็นจุดที่ได้เปรียบเป็นอย่างดีสำหรับ FDNS ที่จะตรวจสอบพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของผู้ที่ได้รับผลประโยชน์และผู้ยื่นคำขอซึ่งเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมฉ้อฉล โดยทั่วไปแล้ว ผู้คนมักจะพูดอย่างตรงไปตรงมาในเครือข่ายของตนเพราะทั้งหมดนั้นเป็นการติดต่อกันกับเพื่อนและครอบครัวโดยทางIM’s (ข้อความโต้ตอบ), บล็อก (เว็บนิตยสาร) และอื่นๆ เครือข่ายทางสังคมให้โอกาสแก่ FDNS ในการเปิดเผยการฉ้อฉลโดยการค้นหาเว็บไซต์เหล่านี้เพื่อที่จะตรวจสอบว่า ความสัมพันธ์ของผู้ยื่นคำขอและผู้ที่ได้รับผลประโยชน์เป็นไปอย่างถูกต้องหรือพยายามที่จะหลอกลวงแก่ CIS

การฉ้อฉลเกี่ยววกับวีซ่าและครเข้าเมืองเป็นสิ่งที่ต้องงตระหนักถึงในเบื้องต้นของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ, USCIS, และการรักษาความปลอดภัยในปรเทศและการป้องกันการฉ้อฉล (FDNS) ดังนั้นการตรวจสอบหลักสุจริตของความสัมพันธ์บนพื้นฐานของการขอวีซ่าเป็นมากกว่าสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำในสถานการณ์ที่พลเมืองสหรัฐหรือผู้ที่มีถิ่นฐานถาวรอย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้นยื่นคำขอในเรื่องสิทธิประโยชน์การเข้าเมืองของคู่รักดที่เป็นชาวต่างชาติ อาจกล่าวได้โดยนัยว่า การตรวจตราไซต์สื่อสาธารณะของUSCIS สามารถสร้างความตระหนกสำหรับหลักฐานต่างๆที่เกิดขึ้น อ้างจาก บล็อกในเว็บไซต์ ImmigrationEquality.org :

ในขณะที่พวกเราไม่เคยส่งเสริมใครก็ตามในการฉ้อฉลการเข้าเมือง มันเป็นการขัดขวางที่จะคิดถึงเจ้าหน้าที่รัฐทำความรู้จักกับคนเข้าเมืองที่ไม่เคยรู้จักโดยการการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่พวกเขาเขียนไว้อ้างต่อพวกเขา ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่สำคัญคือ เมื่อคุณเขียนข้อความใดๆลงในเว็บสาธารณะแล้วเป็นสิ่งที่คาดไว้ได้ล่วงหน้าเลยว่า มันจะถูกนำมาใช้อ้างยันกับคุณได้

การฉ้อฉลเรื่องการเข้าเมืองเป็นประเด็นที่สำคัญ ในขณะที่ กฎหมายคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกานั้นสนับสนุนเรื่องสิทธิประโยชน์ของการเข้าเมืองและการวินิจฉัยคำขอเรื่องการเข้าเมือง เทคโนโลยีสมัยใหม่นั้นสร้างทางเลือกใหม่ๆในการติดต่อกับเพื่อน ครอบครัว และคนรักที่อยู่ทั่วทุกมุมโลก อย่างไรก็ตาม ข้อคิดเห็นทางไซต์สาธารณะที่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นอันตรายในเวลาที่มีการแสดงความคิดเห็นนั้นถูกตรวจสอบโดยผู้ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการเข้าเมืองซึ่งไม่ได้มีความคุ้นเคยเป็นการส่วนตัวกับบุคคลที่แสดงความคิดเห็น ในตอนจบของวัน หัวข้อหลักที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลในบันทึกที่เกี่ยวข้องนี้ คือ อย่าพยายามที่จะหลอกลวงรัฐบาลสหรัฐในการที่จะทำให้ได้มาซึ่งสิทธิประโยชน์และแม้แต่การค้นหาสิทธิประโยชน์บนหลักแห่งความสุจริตนั้นควรจะตระหนักถึงข้อเท็จจริงของข้อมูลที่เขียนในเว็บไซต์สื่อสาธารณะ และต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนโดยเจ้าหน้าที่การเข้าเมืองและหรือผู้ตรวจสอบ

To read this piece in English, please see: I-601 waiver

more Comments: 04

The hiring of a lawyer is an important decision that should not be based solely on advertisement. Before you decide, ask us to send you free written information about our qualifications and experience. The information presented on this site should not be construed to be formal legal advice nor the formation of a lawyer/client relationship.