blog-hdr.gif

Integrity Legal

Posts Tagged ‘การเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา’

8th June 2011

บทความนี้เขียนถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทนายความอเมริกันให้คำแนะนำในกระบวนการของวีซ่าประเภทเค-วัน เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักถึงในการที่จะขอคำแนะนำเกี่ยวกับกระบวนการขอคำปรึกษาในการทำวีซ่าก่อนที่จะทำการตัดสินใจในเรื่องที่สำคัญยากที่จะเปลี่ยนแปลง

วีซ่าประเภทเค-วันเป็นวีซ่าคู่หมั้นสหรัฐอเมริกาที่ไม่ถาวรซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อคู่หมั้นชาวต่างชาติของพลเมืองอเมริกัน วีซ่าประเภทเค-วันอนุญาตให้คู่หมั้นชาวต่างชาติของพลเมืองอเมริกันเข้าไปในสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลา 90 วันเพื่อวัตถุประสงค์ในการแต่งงาน ผู้ที่แต่งงานกับคูหมั้นภายหลัง 90 วันในสหรัฐอเมริกาจะต้องเดินทางออกนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้อ่านควรจะพึงระลึกว่า การเข้าไปยังสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่าเค-วันที่จะแต่งงานกับคู่รักต้องอยู่ในสถานะของกระบวนการเปลี่ยนสถานะผู้ที่จะได้รับสถานะผู้ที่มีถิ่นฐานถาวรในสหรัฐอเมริกา

วัตถุประสงค์ของบทความนี้เพื่อที่จะชี้ให้เห็นถึงมุมมองเกี่ยวกับการจัดการเกี่ยวกับบุคคลที่ไม่ได้รับใบอนุญาตที่จะปฏิบัติงานเกี่ยวกับกฎหมายคนเข้าเมืองในสหรัฐอเมริกา(หรือ กฎหมายอเมริกันใดๆ) ตามบทบัญญัติ 8 CFR 292.1 มีเพียงทนายความที่ได้รับใบอนุญาตในการปฏิบัติงานในอย่างน้อยหนึ่งรัฐหรือเขตอำนาจรัฐบาลกลางที่มีสิทธิที่จะเรียกค่าธรรมเนียมจากลูกความในเรื่องการว่าความกฎหมายคนเข้าเมือง ดังนั้นอาจจะไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับข้อจำกัดในวงแคบที่วางกฎเกณฑ์ไว้ก่อนหน้านี้โดยพฤติกรรมของคนเหล่านั้นเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักถึงว่า ความเชื่อมั่นระหว่างทนายและลูกความนั้นเป็นประเด็นที่สำคัญที่ควรจะพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือของคุณสมบัติในบริบทการเข้าเมืองในต่างประเทศซึ่งเรียกว่า “ตัวแทนวีซ่า” หรือ “ที่ปรึกษาการเข้าเมือง” อ้างถึงคุณสมบัติในความเชื่อมโยงกับการเข้าเมืองสสหรัฐอเมริกา สิทธิประโยชน์ทนายและลูกความไม่ได้ขยายความไปถึงผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นทนายความอเมริกัน และจากกการอภิปรายแล้วผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นทนายความจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษ ในข
ณะเดียวกัน ผู้ที่แสดงตัว หรือแกล้งเป็นทนายอเมริกัน ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้รับสสิทธินี้

ด้วยเหตุผลที่กบ่าวมาแล้วในข้างต้นควรจะอ้างถึงทนายความที่มีความสามารถและไดรับใบอนุญาตจากสหรัฐอเมริกาในการที่จะให้คำแนะนำแก่ลูกความ ผู้อ่านควรที่จะทำความเข้าใจว่า ในบทความนี้ไม่ได้เชิญชวนให้มีการแต่งงานและไม่ใช่ความตั้งใจของผู้เขียนที่จะเขียนถึงการโฆษณาดังกล่าว บทความนี้เป็นบทความที่จะเตือนให้ผู้อ่านได้ตระหนักถึงการตัดสินใจที่ลูกความควรค้นหาข้อมูลในการเลือกทนายความ ความสัมพันธ์ระหว่างทนายความและลูกความไม่ใช่ “สิ่งที่เหมาะสำหรับฝ่ายเดียว” และเป็นคุณภาพในการบริการทางกฎหมายอีกด้วย ดังนั้นควรจะมีการหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะจ้างทนายความ

To view this posting in English please see: K1 Visa Thailand.

more Comments: 04

1st June 2011

เมื่อเร็วๆนี้มีสิ่งที่เป็นที่น่าสนใจคือ ตำแหน่งรีพลับลิกันที่เกี่ยวกับการแต่งงานเพศเดียวกันในเมืองโคลัมเบีย (วอชิงตัน ดี.ซี.) เป็นที่น่าจับตามองของทั้งสื่อและผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง อ้างโดยตรงจากบทความที่เขียนโดยเบน เพิร์ซชิ่งและเขียนในเว็บไซต์ของวอชิงตันโพสต์ ในวอชิงตัน ดอทคอม

ความพยายามที่ผ่านมา รีพลับลิกันอาจไม่ได้รับข้อแก้ตัวในปีนี้ในกฎหมายแต่งงานเพศเดียวกันของรัฐ ไม่มีพระราชบัญญัติที่ถูกยก และผู้ร่างกฎหมายที่ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนร่วมงานสำหรับมาตรการบางอย่าง

สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา พึงระลึกถึงข้อเท็จจริงว่า สภาคองเกรสสหรัฐอเมริกานั้นรับผิดชอบในการบริหารเมืองหลักของสหรัฐอเมริกา ขอบเขตของอำนาจนั้นขยายไปในบริบทของรัฐเอกราชที่จะมีมุมมองในประเด็นระหว่างรัฐ แต่อย่างไรก็ตามรัฐของโคลัมเบียนั้นโดยลักษณะธรรมชาติแล้วแตกต่างจากรัฐเอกราชที่มีกฎเกณฑ์ทางกฎหมายและการวิเคราะห์ที่นำมาใช้ระหว่างรัฐที่แตกต่างกันอาจจะใช้กับรัฐที่แตกต่างกัน อ้างเพิ่มเติมจากบทความที่กล่าวถึง

ประธานการปฏิรูปรัฐบาลและสภา  แดร์แรล อิสซา (อาร์-แคลิฟ) กล่าวว่า เขารู้ว่าไม่มีการรณรงค์การยกเลิกกฎหมาย “กรรมการไม่มีความตั้งใจในการที่จะพลิกการแต่งงานของคู่เกย์” อิสซ่ากล่าวในเดือนนี้ แม้ว่าต่อมาเขาจะชี้แจงเพื่อตัวเองและไม่ได้เพื่อผู้ร่างกฎหมายแต่ละคน ผู้แทน เทรย์ โกว์ดี้ (อาร์-เอส.ซี.) ขณะนี้ดำรงตำแหน่งประธานของคณะกรรมการย่อย ตอบคล้ายๆกันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เขากล่าวในการสนับสนุนพระราชบัญญัติที่จะกลับกฎหมายการแต่งงานของเพศเดียวกันถ้ามีการเสนอกฎหมาย แต่ไม่มีผลประโยชน์ใดๆกับความพยายามดังกล่าว “ข้าพเจ้าไม่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่าการรัฐดี.ซี. และไม่ได้ปรารถนาที่จะเป็น” กาวด์ดี้กล่าว ซึ่งสะท้อนเสียงวิจารณ์ในประเด็นท้องถิ่น ข้อเท็จจริงที่ว่า ไม่มมีรีพลับบลิกันที่จะนำเสนอพระราชบัญญัติในปีนี้ที่จะส่งสัญญาณว่าใช้แผนที่จะใช้เทคนิคที่แตกต่าง

ผู้เขียนบล็อกแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้อ่านควรคลิกไปยังลิงค์ที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะดูบทความทั้งหมด

ผู้สังเกตการณ์กล่าวข้างต้นว่า หลักสำคัญของการวิเคราะห์ใดๆในประเด็นที่โจมตีกลุ่มเพศที่สามด้วยความหวังที่จะผ่านร่างกฎหมาย  เช่นพระราชบัญญัติการรวมครอบครัวอเมริกัน (UAFA) พระราชบัญญัติการคุ้มครองสิทธิการแต่งงาน หรือพระราชบัญญัติการรวมตัวกันใหม่ของครอบครัว จากการสนับสนุนของสองฝ่ายนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ อ้างต่อว่า สิ่งที่ปรากฏว่า ยังคงมีนโยบายที่คงอยู่และสอดคล้องต่อกลุ่มของเพศที่สาม ปัจจุบันนี้มีสัญญาณที่บอกว่า “เป็นมิตร” กับสิทธิโดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิของรัฐที่จะยกการประเด็นตามรัฐธรรมนูญในการยื่นพระราชบัญญัติคุ้มครองการแต่งงาน (DOMA)

ในปัจจุบันนี้ รัฐอิสระในสหรัฐอเมริกา เช่น คอมมอนเวลท์ของแมสซาชูเสสมีการเรียกร้องของประชาชนให้มีการวางมาตรการให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติตามกฎหมายและ หรือ รับรองการแต่งงานหรือสถานะของเพศเดียวกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริง รัฐบาลกลางของสหรัฐอเมริกาจะไม่ได้ให้สิทธิส่วนกลาง  (เช่น สิทธิประโยชน์การเข้าเมือง) แม้ว่ผู้ที่แต่งงานในเขตรัฐอิสระในสหรัฐอเมริกา

ในความเห็นของผู้เขียน ประเด็นเรื่องการแต่งงานของเพศเดียวกันในสหรัฐอเมริกาอาจจะได้รับการคลี่คลายโดยศาลสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นคดีที่ตัดสินโดยศาลสูงสุดของสหรัฐอเมริกา บทความนี้ให้ข้อคิดเห็นหลังจากประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อถือและความสุจริต และหลักพื้นฐานความเชื่อถือและความสุจริตของรัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกา สิ่งที่พึงระลึกถึงคือ ผู้อ่านพึงเข้าใจว่า ประเด็นเหล่านี้ได้รับผลลัพธ์เต็มรูปแบบแล้ว

ในขณะเดียวกันเป็นสิ่งที่ปรากฏว่า นักเคลื่อนไหวในกลุ่มของเพศที่สามนานาชาติได้ดำเนินการที่จะให้สิทธิที่เท่าเทียมกันในส่วนอื่นๆของโลกในฐานะของหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นที่ตีพิมพ์ในประเทศไทยรายงานว่า นักเคลื่อนไหวเพศที่สาม กำลังหาเสียงสนับสนุนทางการเมืองในประเด็นที่เกี่ยวกับการแต่งงานของเพศเดียวกันในการจัดการเลือกตั้งในประเทศไทย อ้างโดยตรงจากเว็บไซต์ที่เป็นทางการของเนชั่น เนชั่นมัลติมีเดีย ดอทคอม:

นักเคลื่อนไหวที่เรียกว่า “เพศที่สาม” เช่น เกย์ เลสเบี้ยน และการแปลงเพศ ได้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อที่จะผ่านกฎหมายการแต่งงานเพศเดียวกัน นที ธีระโรจนพงศ์ ประธานของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ และกลุ่มการเมืองเกย์ของประเทศไทย และนักร้องที่แปลงเพศแล้วที่เป็นที่รู้จักคือ จิม ซาร่าห์ (สุจินรัตน์ ประชาไทย)กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขาไปยังพรรคประชาธิปัตย์และเพื่อไทยวันนี้เพื่อที่จะถามถึงงสิทธิของเพศที่สามหากพรรคจะเป็นผู้นำในรัฐบาลต่อไป กลุ่มของพวกเขากำลังหาพันธะสัญญาจากหลายๆฝ่ายและเขาควรจะได้รับการสัญญาตามที่เขาสนับสนุนหลายๆฝ่าย

ผู้เขียนเว็บบล็อกนี้ขอแนะนำให้ผู้อ่านคลิกในลิงค์ข้างบนเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมจากมุมมองและบความที่กล่าวถึงข้างต้น

ผู้อ่านควรตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีการกล่าวถึงประเด็นเรื่องกลุ่มเพศที่สาม (LGBT) วัตถุประสงค์เพื่อการท่องเที่ยวและการพักผ่อน ประเทศไทยเป็นจุดหมายของนักเดินทางที่ทั้งกลุ่มเพศที่สามและคู่ของพวกเขา ตามที่อ้างถึง ภายใต้กฎหมายไทยยังไม่มีกการรอรับการแต่งงานของคู่เพศเดียวกัน ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่คู่เพศเดียวกันจะจดทะเบียนสมรสที่อำเภอ (สำนักงานเขต)ในแบบเดียวกับที่คู่ต่างเพศมีสิทธิ ตามที่กล่าวมาแล้ว สส.ของประเทศไทยอาจจะนำเอาประเด็นนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเด็นดังกล่าว ประเด็นนี้จะมีการนำไปเสนอในการเลือกตั้งอย่างไร เป็นสิ่งที่แสดงถึงความน่าสนใจของมัน

ในการวิเคราะห์ประเด็นการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาในบริบทของไทยพึงระลึกถึงว่า ถ้าประเทศไทยเริ่มที่จะอนุญาตให้มีการจดทะเบียนสมรสของคู่เพศเดียวกันและสหรัฐอเมริกาผ่านการร่างกฎหมายตามที่กล่าวมาข้างต้น UAFA ซึ่งในอนาคตข้างหน้า คู่เพศเดียวกันท่เป็นชาวไทย อเมริกันสามารถที่จะจดทะเบียนสมรสในประเทศไทยและใช้สิทธิประโยชน์ในเรื่องการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาเช่น วีซ่า เค-3, วีซ่าซีอาร์-1, หรือวีซ่าไออาร์1 ตามที่กล่าวมาแล้วนั้นต้องงอาศัยกระบวนการตามกฎหมายและนโยบายในปัจจุบัน

To view this post in English please see: legal.

more Comments: 04

24th March 2011

เมื่อเร็วๆนี้ผู้เขียนได้ติดตามเรื่องที่น่าสนใจคือ บทความของกองทุนความเสมอภาคการตรวจคนเข้าเมือง รายงานว่า ชาวอเมริกันเรียกร้องต่อกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับสถานะของผู้ที่อยู่อาศัยอย่างถาวรตามกฎหมายสำหรับคู่ของกลุ่มเพศที่สาม (LGBT)ที่ถือสัญชาติอเมริกันและเป็นผู้อยู่อย่างถาวรตามกฎหมาย อ้างโดยตรงจาก Immigration Equality Action Fund Blog:

ในการสัมภาษณ์ที่มีการเผยแพร่เมื่อคืนนี้ ผู้อำนวยการใหญ่ของหน่วยงานความเสมอภาคตรวจคนเข้าเมืองราเชลล์ บี ไทเวนเรรียกร้องให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิยกเลิกการปฏิเสธการยื่นขอกรีนการ์ดของคุ่แต่งงานชาวอเมริกันในกลุ่มเพศที่สาม

สำหรับผู้ที่ไม่ได้ติดตามประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการอภิปรายเพื่อสิทธิประโยชน์ที่เท่าเทียมกันของกลุ่มเพศที่สามซึ่งมีความเชื่อมโยงกับพระราชบัญญัติการคุ้มครองการแต่งงาน (DOMA) ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาห้ามคู่เพศเดียวกันได้รับสิทธิประโยชน์ แม้ว่า สิทธิประโยชน์นั้นจะเป็นสิทธิที่คู่ต่างเพศได้รับอยู่ตามธรรมดาก็ตาม ในขณะเดียวกัน จำนวนของรัฐที่มีอำนาจในอเมริกันเรียกร้องให้พลเมืองและวางมาตรการที่จะอนุญาตให้มีการแต่งงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายระหว่างบุคคลที่เป็นเพศเดียวกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามการแต่งงานอาจจะถูกต้องตามกฎหมายและได้รับการรับรองโดยรัฐในสหรัฐอเมริกา เช่น แมสซาชูเซส ตัวอย่างเช่น รัฐบาลกลางยังคงที่จะไม่ถือว่าการแต่งงานนั้นเป็นไปตามบทบัญญัติของพระราชบัญญัติ DOMA อ้างเพิ่มเติมจากบทความ ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคการตรวจคนเข้าเมือง:

“อาจกล่าวเป็นนัยได้ว่า หน่วยงานทางปกครองหยุดที่จะสร้างความแตกแยกในครอบครัวบนหลักของกฎหมายว่า มกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้” ไทเวนกล่าวต่อผู้สื่อข่าววแอนดรูว์ ฮาร์มอน “พวกเราจะเรียกร้องกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิในการที่จะยกเลิกการขอกรีนการ์ดสำหรับคู่แต่งงานที่เป็นพลเมืองอเมริกัน”

ตามที่ได้กล่าวไว้แล้วข้างต้นนั้น  ผลลัพธ์ของการบังคับใช้พระราชบัญญัติ DOMAในบริยทของคนเข้าเมืองเป็นเรื่องที่มั่นคงและต่อเนื่องของครอบครัวสองสัญชาติ เป็นที่ปรากฏว่า สิทธิที่เท่าเทียมของกลุ่มเพศที่สาม มีความหวังที่จะให้ DHS ช่วยบรรเทาในสสถานการณ์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อ้างโดยตรงจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคการตรวจคนเข้าเมือง

ผู้แทนเจอร์โรลด์ นาร์เดล (D-NY) และโซ  ลอฟเกน (D-CA)เป็นผู้นำที่มีความสำคัญในประเด็นของการตรวจคนเข้าเมืองและกลุ่มเพศที่สามและประเด็นเรื่องคนเข้าเมืองในคองเกรส เชื่อมโยงกับการเรียกร้องการเข้าเมืองในการที่จะหยุดเรื่องคู่แต่งงานตามกฎหมาย วุฒิสภานิวยอร์กคริสเทน กิลลิแบรด์คงที่จะต้องชั่งน้ำหนัก กล่าวกับผู้สื่อข่าวเช่นนั้น ข่าวล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับคู่เกย์และคู่เลสเบี้ยนที่เป็นคู่สองสัญชาตินั้นใจสลาย

บทความนี้แนะนำให้ผู้อ่านคลิกที่ลิงค์ข้างบนในการที่จะศึกษาข้อมูลของกองทุนเพื่อความเสมอภาคในการตรวจคนเข้าเมืองและการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพในกลุ่มของเพศที่สาม สิ่งที่พึงระลึกถึงคือ ผู้แทนเจอรัลด์ แนดเลอร์มีการออกกฎหมายที่เป็นไปในทางสนับสนุนมากขึ้น เช่น พระราชบัญญัติการรวมกลุ่มของครอบครัวอเมริกัน (UAFA) ร่างกฎหมายนี้ให้สิทธิประโยชน์เรื่องการเข้าเมืองแก่คู่เพศเดียวกันสองสัญชาติ

รัฐหลายๆรัฐในสหรัฐอเมริกามอบของขวัญให้แก่สิทธิที่เท่าเทียมกันของกลุ่มเพศที่สาม สิทธิประโยชน์ ความคุ้มกันและการป้องกัน หลายๆรัฐเช่น แมสซาชูเซส ไอโอวา โรดไอซ์แลนด์ เวอร์มอนท์ นิวแฮมเชียร์ คอนเนคติกัส และเขตในโคลัมเบียให้การสนับสนุนการต่อสู้สิทธิในครอบครัวของกลุ่มเพศที่สาม ในขณะเดียวกัน การบังคับใช้บทบัญญัติต่างๆในพระราชบัญญัติคุ้มครองการแต่งงาน (DOMA) เป็นการรักษาสิทธิประโยชน์เรื่องการเข้าเมืองที่เท่าเทียมกันของคู่เพศเดียวกันสองสัญชาติ เมื่อเปรียบเทียบกับคู่ต่างเพศ

ประเด็นเรื่องการแต่งงานของเพศเดียวกันและสิทธิที่เท่าเทียมกันเป็นเรื่องที่มีการแนะนำอยู่หลายๆประเด็นที่มีความหลากหลาย แต่ในความคิดเห็นของผู้เขียนไม่ต้องการให้เป้นเช่นนั้น ตัวอย่างเช่น ผู้เขียนมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา(รัฐแคนซัส)ซึ่งมีการห้ามคู่แต่งงานเพศเดียวกัน (ใช่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การแต่งงานของเพศเดียวกันรัฐแคนซัสนั้น เป็นสิทธิที่จะแต่งงานกับใครก็ได้ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานภายใต้รัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาซึ่งให้สิทธิแก่ชาวแคนซัสเช่นเดียวกับคนอื่นในสหรัฐ แต่การวิเคราะห์ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ต้องตระหนักถึงเบื้องต้นในประเด็นการแต่งงานเพศเดียวกันระหว่างรัฐ) มีบางฝ่ายโต้เถียงว่า เรื่องนี้ไม่ใช้กับศาลแห่งรัฐที่ห้ามการแต่งงานของเพศเดียวกันตามกฎหมายในรัฐอื่นๆ ผู้เขียนบทความนี้เห็นว่า อาจมีการแปลความที่แตกต่างกันในบริบทความความเชื่อมั่นอาจจะมีการอนุญาตในบางรัฐ เช่น แคนซัส ในการที่จะทำให้การแต่งงานตามกฎหมายระหว่างคู่เพศเดียวกันที่ยังคงอาศัยข้อเท็จจริงในเขตอำนาจของรัฐอื่น (ตัวอย่างเช่น แมสซาชูเสส) บทบัญญัติของรัฐอาจจะห้ามการรับรองหรือการบังคับคดี ของการหย่าในคู่เพศเดียวกัน แต่ในบางกรณีนั้นคู่เพศเดียวกันไม่ได้รับสถานะทางการแต่งงานจากส่วนกลางหรือจากระหว่างรัฐ อาจกล่าวได้ว่า ไม่มีประเด็นที่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างชัดเจน

To view this information in English please see: same sex marriage.

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาคลิกที่นี่: UAFA

more Comments: 04

18th January 2011

เมื่อเร็วๆนี้มีข่าวที่อยู่ในเว็บไซต์ Telegraph.co.uk พาดหัวข่าวว่า “เด็กชายวัย 9 ขวบพลาดการไปเที่ยวดิสนีย์เวิลด์เพราะระเบียบของคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา”ซึ่งรายงานกล่าวว่า เด็กชาย วัย 9 ขวบถูกปฏิเสธวีซ่าสหรัฐอเมริกาประเภทท่องเที่ยว อ้างโดยตรงจากบทความ :

พวกเขากล่าวว่า มีความเสี่ยงที่หลังจากช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาจะไม่เดินทางออกนอกสหรัฐอเมริกาและเขาถูกปฏิเสธคำขอภายใต้มาตรา 214(b) ของพระราชบัญญัติสัญชาติและคนเข้าเมือง

บล็อกเกอร์อ้างในหัวข้อของบทความต้นฉบับซึ่งข้อจำกัดของคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจจะมีบางอย่างคลุมเครือเนื่องจากการยื่นคำขอวีซ่านั้นยื่นต่อกงสุลสหรัฐอเมริกาภายใต้เขตอำนาจของสถานทูตในสหราชอาณาจักรและไม่ใช่หน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา (USCIS)ในสหรัฐอเมริกา อาจกล่าวได้ว่า บทความนี้ได้อธิบายถึงการยื่นขอวีซ่าของเด็กในสหราชอาณาจักรและการปฏิเสธวีซ่า พ่อแม่ของเด็กกพยายามที่จะสร้างความประทับใจให้แก่ลูกด้วยการเดินทางไปดิสนีย์เวิลด์ ฟลอริด้า อ้างโดยตรงจากบทความ:

ไมคาร์ [ผู้ที่ยื่นขอวีซ่าสหรัฐอเมริกาประเภท B-2]เกิดในอังกฤษและอาศัยอยู่ในเมดเดิลส์เอ็กซ์ตลอดชีวิตของเขากับคลาเดียร์ ลูอิสผู้เป็นแม่

เขาถือพาสปอร์ตแอฟริกาใต้เพราะเคทรีและเอ็ดเวิร์ดทวดขอองเขาอาศัยและทำงานอยู่ในอังกฤษตั้งแต่ปี 1990 เพียงแค่เขาเท่านั้นที่ได้รับพาสปอร์ตแอฟริกาใต้

พวกเขามีต้นกำเนิดมาจากแอฟริกาใต้

ไมคาร์แนบจดหมายจากโรงเรียนประถมของเขาที่ยืนยันว่า เขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนไปพร้อมกับการยื่นคำขอวีซ่า

แต่สถานทูตอเมริกาปฏิเสธจดหมายของไมคาร์โดยอ้างว่า “เพราะว่าไม่มีการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นนอกสหรัฐอเมริกาหรือไม่สามารถแสดงว่า กิจกรรมที่คุณจะไปสหรัฐอเมริกาจะทำให้คุณยังคงสถานะของวีซ่าอยู่ได้ คุณเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติ”

เคทรี ยายของเขามาจากบริกซ์ตันทางตอนใต้ของลอนดอนกล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก เขาน่าจะชอบมัน”

บล็อกเกอร์ขอแนะนำว่า ผู้ที่สนใจที่จะติดตามเรื่องราวเพิ่มเติมสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ Telegraph

มาตรา 214(b) พระราชบัญญัติสัญชาติและคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาซึ่งกำหนดข้อสันนิษฐานทางกฎหมายในการตัดสินของเจ้าหน้าที่กงสุลในภารกิจของสหรัฐในต่างแดน (สถานทูตสหรัฐ สถานกงสุลสหรัฐ สถาบันในอเมริกา หน่วยบริการวีซ่า และอื่นๆ)ซึ่งเป็นการยื่นขอวีซ่าสหรัฐอเมริกาซึ่งปกปิดเจตนาการเข้าเมือง การที่จะพิสูจน์ข้อสันนิฐานที่จะเกิดขึ้นเมื่อเจ้าพนักงานกงสุลมีความเห็นว่า ตรงข้ามกับข้อมูลที่กล่าวอ้างไว้  ผู้ยื่นขอวีซ่าต้องแสดงถึงความสัมพันธ์อันแนบแน่นที่มีต่อประเทศที่ผู้สมัครมีภูมิลำเนาอยู่ หรือประเทศอื่นๆและในขณะเดียวกันจะต้องไม่มีความเกี่ยวพันกับสหรัฐอเมริกามากนัก

ในตอนอื่นๆของบทความที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ ผู้เขียนอ้างถึงคู่ที่จองตั๋วเครื่องบินสำหรับการเดินทางไปพักผ่อนที่สหรัฐอเมริกา ตามที่กล่าวมาในบทความก่อนหน้านี้คือ ไม่มีการยืนยันที่ชัดเจนสำหรับการที่จะได้รับวีซ่าสหรัฐอเมริกาของคนต่างชาติมากกว่าระเบียบวิธีการ พฤติการณ์ดังกล่าวนั้นไม่สามารถที่พวกเขาจะคาดการณ์และต้องสูญเสียทั้งเรื่องการเงินและความรู้สึก ชาวต่างชาติมี่ปรารถนาจะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาไม่ควรจะวางแผนการเดินทางที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้จนกว่าจะได้รับการออกวีซ่าสหรัฐอเมริกา

องค์ประกอบหลักที่มีผลอย่างมากต่อผลลัพธ์ของการขอวีซ่าในคดีต่างๆ คือหนังสือเดินทางของสหราชอาณาจักร ตามที่กล่าวมาแล้วข้างบนจากสถานทูต ผู้ยื่นคำขอวีซ่าไม่สามารถแสดงความสัมพันธ์อันแนบแน่นต่อสหราชอาณาจักร หรือประเทศอื่นๆ ถ้าเด็กที่อาศัยในสหราชอาณาจักรแต่ไม่มีหนังสือเดินทางของสหราชอาณาจักร และตามที่กล่าวอ้างไปแล้วข้างบนว่า ไม่เคยอาศัยในแอฟริกาใต้ แต่พยายามที่จะใช้หนังสือเดินทางของแอฟริกาใต้เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกา อาจจะกล่าวได้ว่า ความสัมพันธ์ต่อประเทศอื่นๆนั้นไม่แน่นแฟ้น อาจจะเป็นไปได้และปราศจากข้อมูลอย่างละเอียด นั่นอาจจะเป็นเหตุผลในการปฏิเสธคำขอ อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยของแต่ละคดีนั้นอยู่บนหลักความจริงที่แตกต่างกันและการวิเคราะห์พฤติการณ์ต่างๆที่จะมีการปฏิเสธคำขอวีซ่านั้นก็แตกต่างกันด้วย

โดยทั่วไปแล้วไม่มีหลักฐานที่แน่นอนว่า การยื่นคำขอวีซ่าสหรัฐอเมริกาอีกครั้งหนึ่งจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อเท็จจริง แต่อย่างไรก็ตามเมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปมาก หลังจากนั้นการยื่นคำขออาจจะเป็นเรื่องที่ไร้สาระ ในมุมมองของกฎหมายในหลายๆเขตอำนาจศาลการเปลี่ยนแปลงสัญชาติ การได้มาซึ่งสัญชาติ การลงทะเบียนสัญชาติ หรือการแปลงสัญชาติเป็นสัญชาติใหม่ซึ่งแตกต่างกันตามสิทธิตามกฎหมาย ภาระผูกพัน สิทธิพิเศษ และอย่างน้อยที่สุดอาจจะเป็นหนังสือเดินทาง บางครั้ง หลังจากที่เด็กได้รับพาสปอร็ตสหราชอาณาจักรซึ่งเป็นเอกสารการเดินทางที่เหมาะสมประเภทหนึ่ง การยื่นคำขอวีซ่าประเภทอื่นๆจะได้รับการอนุมัติหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการได้มาซึ่งหนังสือเดินทางของสหราชอาณาจักร เด็กในบทความนี้อาจจะมีคุณสมบัติสำหรับโปรแกรมการขอละเว้นสิทธิ แม้ว่า การปฏิเสธวีซ่าสหรัฐอเมริกาต้องการที่จะอยู่ในระบบลงทะเบียนอิเล็คทรอนิกส์ของการเดินทาง (ESTA)

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้ที่จะยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวสหรัฐอเมริกาในอนาคตนั้นควรจะตระหนักถึงข้อเท็จจริงที่ว่า สัญชาตินั้นเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการยื่นคำขอวีซ่าหรือกระบวนการทางคนเข้าเมือง

To view this post in English please see: US visa denial.

more Comments: 04

8th November 2010

แม้ว่าบล็อกนี้แทบจะไม่ค่อยมีการถกเถียงเรื่อง ประเด็นเศรษฐกิจ แต่เมื่อเรื่องเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อประเด็นทางกฎหมาย หรือการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาซึ่งทำให้การถกเถียงกันในประเด็นนี้เป็นเรื่องที่จำเป็น หลายเดือนที่ผ่านมา เงินดอลลาห์สหรัฐอเมริกาทำให้ค่าเงินของประเทศต่างๆในเอเชียลดลง แต่ไม่ทำให้ค่าเงินหยวนลอยตัวเหมือนเงินสกุลอื่นๆ โดยสรุปแล้ว ภาวะความตึงเครียดทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ระหว่างสหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน  ราชอาณาจักรไทย และชาติอื่นๆในเอเชีย ในขณะเดียวกัน ค่าเงินของบางประเทศสมาชิกสมาคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ก็เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาห์สหรัฐ ในบทบรรณาธิการที่กล่าวไว้ใน ThaiVisa.com

ในหลายๆสถานการณ์ที่เงินดอลลาห์กำลังดิ่งลง ค่าเงินดอลลาห์ตกไปอยู่จุดต่ำที่สุดในรอบห้าเดือนเมื่อเปรียบเทียบกับเงินยูโร  ทองคำซึ่งเป็นเครื่องที่กีดขวางความคาดหวังความเฟ้อในอนาคตสามารถก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในการคาดการณ์ล่วงหน้าของตลาดซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เต็มไปด้วยระบบทางการเงินที่มีความคล่องตัวกว่าในเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา

การบรรเทาทางการเงินจะส่งผลให้เงินดอลลาห์สหรัฐอ่อนค่าลงมากขึ้น และรัฐบาลสหรัฐดำเนินมาตรการขาดดุล ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ก็ดำเนินการตามเพื่อช่วยเหลือการซื้อเงินทุนในภาวะขาดดุลซึ่งไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงในอนาคตที่สามารถคาดการณ์ได้เนื่องจากความไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รายได้จากภาษีที่ลดลง และภาระหนี้ที่เพิ่มมากขึ้น

ความไม่มั่นคงของสหรัฐอเมริกา วิกฤตการณ์หนี้ในยุโรปและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ประเทศไทยจะจัดการกับนโยบายที่ท้าทายนี้อย่างไร สิ่งแรกคือค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เงินบาทนั้นกำลังกลับไปสู่ยุคของก่อนวิกฤตการณ์ปี 1997ในระดับที่ 25 บาทต่อหนึ่งดอลลาห์

สิ่งที่ควรตระหนักถึงคือ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐประกาศว่า จะอัดฉีดเงินจำนวนหกพันล้านดอลลาห์สหรัฐในช่วงหลายๆเดือน ตามที่ได้รวบรวมจากข้อความที่มีการรอ้างถึงข้างบน นโยบายการบรรเทาเชิงปริมาณส่งผลให้ค่าเงินดอลลาห์ลดลลงเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินของเอเชีย (และสกุลเงินอื่นๆทั่วโลก แต่บทความนี้มุ่งเน้นไปที่เอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย) ในบทความที่เขียนลงในหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นและเผยแพร่ใน ThaiVisa.com รายละเอียดการถกเถียงประเด็นนี้มี ดังนี้

เมื่อเงินทุนหลั่งไหลจากสหรัฐอเมริกามาสู่เอเชียในปริมาณมาก ส่วนมากไม่สามารถไหลไปยังจีน ดังนั้นจึงเงินจึงอยู่ในตลาดที่ปรากฏออกมาเช่นประเทศอาเซียน กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศไทย กล่าว

“พวกเรา สองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่มีความแตกต่างในประเด็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ผมคิดว่า พวกเขาเข้าใจสถานการณ์ที่ลำบาก”นายกร์กล่าว

ค่าของเงินดอลลาห์สหรัฐยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ค่าเงินหยวนของจีนยังไม่เพิ่มขึ้น ประกาศการบรรเทาเชิงปริมาณของสหรัฐฉบับล่าสุดมีจุดมุ่งหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจภายในของสหรัฐ ค่าของเงินในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อต้านกับสหรัฐ ค่าของเงินที่สูงขึ้นนี้ต้องตระหนักถึงการแข่งขันเรื่องการส่งออก

สองยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจ จีนและอเมริกาต่างมีความเสมอภาคกันในทางค่าของเงินและการค้า แต่ประเด็นที่ส่งผลกับคนไทยคือการเพิ่มขึ้นขิงค่าเงินบาท หลายๆคนมองว่า ไม่ได้สนใจในเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นและมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ พวกเขาอาจจะคิดถูก อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของค่าเงินที่ผ่านมานั้นสามารรถพิสูจน์ได้ว่า เป็นประโยชน์ต่อคนไทยที่ต้องการวีซ่าผู้ลงทุนในสหรัฐอเมริกา

วีซ่าสหรัฐอเมริกาประเภทEB-5(ประเภทการลงทุนผู้ที่มีถิ่นฐานถาวร)นั้นเป็นเอกสารการเดินทางและผู้ที่อาศัยอยู่ถาวรอย่างถูกต้องตามกฎหมายในการลงทุนที่สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ค่าเงินบาทสูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาห์สหรัฐซึ่งกลายมาเป็น “ถูกขึ้น” (ในมุมมองของเงินบาท)เพื่อที่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์การลงทุนในสหรัฐ ดังนั้นเงินดอลลาห์กลายมาเป็นอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาทไทยซึ่งกลายมาเป็นแพงกว่าเล็กน้อยจากมุมมองของเงินบาทเพื่อที่จะลงทุนในสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ที่ปรารถนาที่จะตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกา อัตราแลกเลี่ยนเงินบาทต่อเงินดอลลาห์เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง

นี่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเพราะการลงทุนในสหรัฐนำไปสู่การจ้างงานใหม่ นอกจากนี้ การเข้าเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอเมริกา ความเข้มแข็งกว่าที่ว่า เศรษฐกิจกลายมาเป็นตัวกระตุ้นที่จะช่วยให้เศรษฐกิจโดยรวมมของอเมริกาฟื้นขึ้น อาจจะทำให้ภาคประชาชนและธุรกิจในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกได้รับผลประโยชน์มากขึ้นด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานการณ์นี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และช่วยฟื้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา

To view this information in English please see the previous posting.

more Comments: 04

The hiring of a lawyer is an important decision that should not be based solely on advertisement. Before you decide, ask us to send you free written information about our qualifications and experience. The information presented on this site should not be construed to be formal legal advice nor the formation of a lawyer/client relationship.