
Integrity Legal
- Legal Blog
- Integrity Legal Home
- Thai Visa
- Company in Thailand
- Real Estate Thailand
- US Visa
- Contact Us
Posts Tagged ‘วีซ่า เค วัน’
10th June 2011
บันทึก USCISในการเร่งกระบวนการวินิจฉัยการขออุทธรณ์ของ ไอ-601
Posted by : admin
สิ่งที่กำลังเป็นเรื่องที่น่าสนใจ คือ หน่วยบริการพลเมืองสหรัฐอเมริกาและการเข้าเมือง (USCIS) ได้ออกบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการการขอสิทธิอุทธรณ์ ตาม ไอ-601 หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมนั้นสามารถอ้างได้โดยตรงจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของUSCIS ตามเว็บ USCIS.gov
วัตถุประสงค์
บันทึกนโยบายนี้ (PM)นำเสนอหลักการเกี่ยวกับกระบวนการในการขอใช้สิทธิอุทธรณ์ตามฟอร์ม ไอ-601ของหน่วยบริการพลเมืองและการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา (USCIS)โดยการยื่นนอกสหรัฐอเมริกา หลักการเหล่านี้มีอยู่ในAFM บทที่ 41.7และในบททบทวนของคู่มือหน่วยปฏิบัติการ ตามเขตอำนาจศาลของแบบฟอร์ม ไอ-601
ขอบเขต
นอกจากข้อยกเว้นที่กล่าวถึงข้างต้นนั้น บันทึกนี้นำมาใช้และบอกเป็นนัยว่า เจ้าหน้าที่ของ USCIS มีอำนาจวินิจฉัยแต่ละบุคคลนอกสหรัฐอเมริกา
การควบคุม
8 CFR 212.7 ควบคุมการวินิจฉัย USCIS ของฟอร์ม ไอ-601
เบื้องหลังของนโยบาย USCIS ยอมรับการร้องขอที่จะมีการขออุทธรณ์กระบวนการของคำร้อง หรือคำร้องขอที่ผู้สมัครและผู้ยื่นคำขอแสดงถึงเหตุผลในการที่จะอุทธรณ์กระบวนการดังกล่าว เกี่ยวเนื่องกับนโยบายที่ผู้สมัครอาจเรียกร้องว่า ฟอร์ม ไอ-601 อาจจะได้รับการพิจารณา คำร้องขอเกี่ยวกับการอุทธรณ์ในบริบทที่แตกต่างกัน โดยมากแล้วแบบฟอร์ม ไอ-601 ของผู้สมัครนอกสหรัฐอเมริกามีส่วนที่จะช่วยเร่งกระบวนการโดยอาศัยความยากลำบากในการที่จะหาคุณสมบัติของสมาชิกในครอบครัว โดยส่วนมากฟอร์ม ไอ-601ทั้งหมดที่อยู่นอกประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามผู้สมัครบางคนอาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่พิเศษนอกสหรัฐอเมริกาซึ่งจะต้องเป็นไปอย่างเร่งด่วน และมีเหตุผลของเวลาในการที่อยู่ในขั้นตอนของฟอร์มไอ-601 บันทึกนี้ได้แนะนำสิ่งที่เกี่ยวกับคำร้องขอของฟอร์มไอ-601โดยผู้ยื่นคำขอที่อยู่ต่างแดน นโยบายที่ดำเนินการในการจัดการกับทรัพยากรและสถานการณ์ต่างๆขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีโดยขึ้นอยู่กับการอนุมัติคำขอในการเร่งกระบวนการการอุทธรณ์ฟอร์มไอ-601 ความปรารถนาอย่างแรงกล้านั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์พิเศษ ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีที่จะมีการร้องขอให้วินิจฉัยฟอร์มไอ-601 ความตั้งใจที่จะย้ายถิ่นฐานมายังสหรัฐอเมริกาอาจจะมความเป็นไปได้แต่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์พิเศษเพียงอย่างเดียว ประเภทของพฤติการณ์พิเศษโดยทั่วไปแล้วช่วยเร่งให้กระบวนการต่างๆรวดเร็วขึ้นสำหรับผู้ที่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและอยู่ในสถานการณ์ที่บีบบังคับมากกว่าการที่ผู้สมัครในสหรัฐอเมริกาจะรอให้สถานการณ์อยู่ภายใต้กรอบเวลาปกติ
สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเรื่องการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกานั้นต้องตระหนักถึงการอุทธรณ์ ไอ-601ที่ให้การเยียวยาสำหรับผู้ที่ไม่สามารถเข้าไปในสหรัฐอเมริกา หรือยังไม่สามารถที่จะได้รับวีซ่าสหรัฐอเมริกา (เช่นวีซ่า เค-วัน(วีซ่าคู่หมั้น) วีซ่าซีอาร์-1 หรือวีซ่า ไออาร์-1) ในระหว่างกระบวนการทางกงสุลที่สถานทูตสหรัฐอเมริกา หรือสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาในต่างประเทศ
การของสิทธิอุทธรณ์นั้นเป็นที่น่าสับสนกับการอุทธรณ์ ไอ-212 (ยังกล่าวถึงการยื่นคำขอเกี่ยวกับการอนุญาตล่วงหน้าในการกลับเข้าไปในสหรัฐอเมริกา) อย่างไรก็ตาม การใช้สิทธิอุทธรณ์ ไอ-601 และสิทธิอุทธรณ์ ไอ-212 เป็นคำขอสองประเภทที่แตกต่างกันซึ่งมีบางส่วนที่เหมือนกันแต่ไม่ได้มีส่วนที่เหมือนกันทั้งหมด
To view this information in English please see: I-601 waiver.
25th May 2011
ผู้ที่ศึกษาเรื่องการเข้าเมืองของครอบครัวอเมริกันอาจสนใจในวีซ่า เค-วัน หรือ ซีอาร์-วันของคู่หมั้นใหม่ อ้างถึงความกังวลของพลเมืองอเมริกันที่มีการทำให้การเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาของคู่หมั้นหรือคู่สมรสต่างชาติ ภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นในประเทศไทย หรือในกัมพูชา โดยแท้จริงแล้วหมายถึงการทำวีซ่าแต่งงานสหรัฐอเมริกา(เรียกวีซ่านี้ว่า ซีอาร์-วัน หรือ วีซ่า ไออาร์-วัน) หรือวีซ่าคู่หมั้นให้แก่คู่หมั้น หรือคู่สมรสชาวไทยหรือกัมพูชา คำถามต่อมาคือ วีซ่าประเภทใดที่ได้รับมากกว่า
ในปัจจุบันนี้ ใช้เวลาน้อยกว่าในการที่จะได้รับวีซ่าประเภทเค-วัน เปรียบเทียบกับวีซ่า ซีอาร์-วัน อ้างว่า ความเห็นของผู้เขียนในทางปฏิบัติแล้ว ระยะเวลาของการทำวีซ่าสองปะเภทนี้ใกล้เคียงกัน และโดยสรุปแล้วจะเป็นทางที่ดีกว่าถ้ามีการหาข้อมูลเกี่ยวกับการยื่นคำขอวีซ่าประเภท ซีอาร์-วัน หรือไออาร์-วันจากแหล่งข้อมูลมากกว่าที่จะดำเนินการในกระบวนการของวีซ่า เค-วันเพียงอย่างเดียว สิ่งที่พึงระลึกถึงนั้นคือ ผู้อ่านควรจะระลึกถึงว่า กระบวนการที่มีลักษณะเฉพาะสำหรับหลายๆคู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีขั้นตอนเกี่ยวกับระยะเวลามากมาย
แม้ว่า วีซ่าเค-วันจะช่วยให้คู่หมั้นชาวต่างชาติได้เดินทางเข้ามาในสหรัฐอเมริกาได้เร็วกว่าการที่คู่สมรสขอวีซ่าประเภทซีอาร์-วันซึ่งถือวีซ่าประเภทผู้พำนักในสหรัฐอเมริกาประเภทถาวร ในทางกลับกันผู้ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่าประเภทเค-วันจะต้องดำเนินกระบวนการเปลี่ยนแปลงสถานะเพื่อให้ได้กรีนการ์ด
หากไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงในเรื่อง ระยะเวลากระบวนการของUSCIS อาจมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเรื่องเวลาเล็กน้อยที่จะได้รับคำขอวีซ่าเค-วันเมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆปีที่ผ่านมา กระบวนการของวีซ่าประเภทเค-วัน นั้นมีระยะเวลานานในหลายๆเดือนที่ผ่านมา ระยะเวลาการรอคอยที่นานมากขึ้นนั้นเกี่ยวกับข้อเท็จจริงศูนย์วีซ่าแห่งชาติ และสถานทูตสหรัฐอเมริกา หรือสถานกงสุลสหรัฐอเมริกาที่มีขั้นตอนและเขตอำนาจที่แตกต่างกัน ตามกระบวนการคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาที่ระยะเวลาดำเนินการในเรื่องเกี่ยวกับกงสุลมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้น หรือลดลงนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวกับศูนย์บริการของสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในต่างประเทศ ขณะนี้ เป็นเรื่องยากที่จะคำนวณระยะเวลาที่แน่นอนสำหรับกระบวนการทางกงสุลในเอเชียเนื่องจากมีปัจจัยต่างๆมากมายที่ต้องคำนึงถึง ความเห็นของผู้เขียนนั้นควรที่จะมีการหาข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่าครอบครัวก่อนที่จะตัดสสินใจในเรื่องการเข้าเมืองซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะเพิกถอนได้เหมือนวีซ่าประเภทอื่น จะทำให้เอกสารการเดินทางนั้นไม่ก่อให้เกิดผล หากมีการใช้เอกสารดังกล่าวก็จะส่งผลต่อองค์ประกอบหลายๆอย่างของสถานะพลเมืองผู้ทีถิ่นฐานถาวรในสหรัฐอเมริกา
To view this posting English please see: Legal.
15th March 2011
USCIS ประกาศเปลี่ยนแปลงขั้นตอนสสำหรับการยื่นการเปลี่ยนแปลงที่อยู่
Posted by : admin
สิ่งที่น่าสนใจนั้นคือ หน่วยบรอการการเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา (USCIS) จะเปลี่ยนแปลงขั้นตอนในการจัดการกับการเปลี่ยนแปลง อ้างโดยตรงจากเว็บไซต์ของหหน่วยบริการ ของการวิจัย NIH :
หน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา (USCIS) ได้ประกาศถึงที่อยู่ใหม่ในการส่งเอกสาร ฟอร์ม AR-11
ฟอร์มที่ยื่นทางไปรษณีย์สหรัฐอเมริกาควรจะส่งไปที่
หน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา
การเปลี่ยนแปลงที่อยู่
พี.โอ. บ็อกซ์ 7134
ลอนดอน, เค วาย 40742-7134
ฟอร์มที่ยื่นทางการบริการขนส่งสินค้าและการพาณิชย์ควรจะส่งไปที่
หน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา
การเปลี่ยนแปลงที่อยู่
1084-ไอ ถนน เซาท์ ลอร์เรอร์
ลอนดอน, เค วาย 40744
แบบฟอร์มใดๆที่ก่อนหน้านี้ได้ส่งไปที่ สำนักงานใหญ่ของ USCIS จะถูกส่งต่อไปยังสำนักงานที่เคนตัคกี้ รูปแบบใหม่ของฟอร์ม AR-11 ซึ่งรวมถึงที่อยู่ในการส่งไปรษณีย์ใหม่ได้มีการเผยแพร่และสามารถหาดูจากกเว็บไซต์ของ USCIS (คลิกที่ ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม) ข้อมูลเพิ่มเติมของการเปลี่ยนแปลงที่อยู่นั้นสามารถหาได้จากเว็บไซต์ USCIS
ผู้ดูแลบล็อกแนะนำว่า ผู้อ่านที่คลิกลิงค์ด้านบนเพื่อที่จะอ่านประกาศฉบับเต็ม
ประเด็นนี้เป็นประเด็นสำคัญของผู้ซึ่งยื่นคำขอสำหรับสิทธิประโยชน์เรื่องการเข้าเมืองและการย้ายถิ่นฐานในเวลาต่อมา นอกจากนี้ผู้ที่เข้าสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่าประเภทเค-1 (เป็นชื่อเรียกของวีซ่าคู่หมั้นสหรัฐอเมริกา) ควรจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับประกาศข้างต้นในฐานะที่เป็นผู้ถือวีซ่าประเภท เค-1 ที่ต้องยื่นแบบฟอร์มการปรับเปลี่ยนสถานะของวีซ่าเพื่อที่จะได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายในการพักอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา ในบางกรณี คู่สองสัญชาติอาจจะมีความประสงค์ในการเปลี่ยนที่อยู่ในขณะที่การปรับเปลี่ยนยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ การที่ไม่ได้แจ้งแก่หน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา (USCIS) การเปลี่ยนแปลงอาจจะส่งผลให้กระบวนการล่าช้าหรือคู่แต่งงานอาจไม่ได้รับการแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงการสัมภาษณ์ที่อาจเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้อาจจะส่งผลการพลาดข้อมูลที่กล่าวไปแล้วในเรื่องการสัมภาษณ์และอาจมีการผิดพลาดของสถานะของการยื่นวีซ่าคู่หมั้นที่มีข้อมูลไม่เพียงพอ ด้วยเหหตุผลเหล่านี้ การที่จะให้ USCIS มีข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในขณธที่กำลังดำเนินการเรื่องคำขอเป็นสิ่งที่สำคัญ
บทความที่ผ่านมานี้กล่าวถึง USCIS เปลี่ยนแปลงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจในการจ้างงาน และ การทำทัณฑ์บนล่วงหน้า การบริการที่ปรากฏอย่างชัดเจนเรื่องการทำทัณฑ์บนล่วงหน้าใช้เอกสารเช่นเดียวกับการได้รับการอนุญาตจ้างงานก่ออนที่จะมีการเปลี่ยนแปลง การทำทัณฑ์บนล่วงหน้าได้รับสิทธิประโยชน์ว่า สามารถให้สถานะวีซ่าของผู้ถือวีซ่าประเภท เค-1ซึ่งอนุญาตให้ผู้ถือวีซ่าออกจากประเทศในขณะที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงได้ การละเลยการได้รับการทำทัณฑ์บนล่วงหน้าก่อนที่จะออกกจากสหรัฐอเมริกาสามารถที่จะส่งผลให้ผู้ได้รับสิทธิประโยชน์จากวีซ่าประเภท เค-1ผิดพลาดจากสถานะและอาจจะต้องเริ่มกระบวนการใหม่อีกครั้ง
To view this information in English please see: K-1 visa.
13th December 2010
ชายที่สูญเสียสัญชาติอเมริกันและถูกพิพากษาว่าฉ้อโกงสถานภาพแต่งงาน
Posted by : admin
ประเด็นเรื่องการฉ้อโกงในการเข้าเมืองเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเรื่องหนึ่ง เจ้าหน้าที่รัฐของสหรัฐอเมริกาในกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (USCIS) กระทรวงของรัฐ (DOS) หน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา (USCBP) และหน่วยบังคับการคนเข้าเมืองและศุลกากร(USICE)ทั้งหมดนี้อยู่ในความรับผิดชอบที่จะต้องตรวจสอบและสอบสวนเกี่ยวกับการฉ้อฉลเรื่องวีซ่าและการเข้าเมือง ผู้เขียนคิดว่ามีความน่าสนใจในเรื่องการบริการคนเข้าเมืองและการพิธีการทางศุลกากร ได้มีการอ้างอย่างเป็นทางการในฐานะ ICEถึงการจับกุมชาวไนจีเรียที่มีส่วนพัวพันกับการปลอมแปลงวีซ่าสหรัฐอเมริกา อ้างโดยตรงจากเว็บไซต์ ICE.gov
ฮูสตั้น- เมื่อวันจันทร์มีการถอนสัญชาติอเมริกันของชายชาวไนจีเรียที่ถูกตัดสินว่า สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อฉลการแต่งงาน ฉ้อฉลเรื่องแปลงสัญชาติ และปลอมแปลงข้อความต่างๆต่อตัวแทนของรัฐ คำตัดสินนี้ได้มมีการแถลงโดยทนายสหรัฐอเมริกาโจส์ แองเจิ้ล โมเรโน ทางใต้ของรัฐเท็กซัส การสอบสวนได้ดำเนินการโดยการบังคับการทางศุลกากรและคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา (ICE) สำนักงานการสอบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) อิบบราฮิม อดีนีน อายุ 33 ปีผู้ซึ่งมีถิ่นกำเนิดที่ไนจีเรียและได้รับการแปลงสัญชาติเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาถูกตัดสินโดยคณะลูกขุน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม เขาอยู่ในความควบคุมขอองส่วนกลางเป็นเวลา 6 เดือน ผู้พิพากษาเขตในสหรัฐอเมริกาเคนเนท ฮอทพิพากษาให้อดีนีนจำคุกในเรือนจำ ผู้พิพากษายังได้รับคำภร้องจากรัฐบาลให้ถอนสัญชาติสหรัฐอเมริกา อดีนีนยังถูกเนรเทศออกนอกประเทศด้วย
การทำให้ขาดสิทธิจากการเป็นพลเมืองเป็นกระบวนการที่บุคคลนั้นถูกถอนสัญชาติสหรัฐอเมริกาและกลับไปถือสัญชาติอื่น ในประเด็นของการปลอมแปลงการแต่งงานและกระบวนการเข้าเมมืองสหรัฐอเมริกา มีรายงานว่า
การสอบสวน ICE HIS เริ่มต้นเมื่อปี 2008 อดีนีนนั้นเกี่ยวพันกับการเป็นนายหน้าระหว่างคนสัญชาติไนจีเรียและพลเมืองสหรัฐอเมริกาเพื่อที่ว่าคนสัญชาติไนจีเรียจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเข้าเมือง ทั้งหมดนี้เพื่อนำไปสู่การเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา “คู่หมั้น”ชาวอเมริกันนั้นได้รับค่าตอบแทนในการหลอกลวงเป็นเงินสด
การร่วมมือกันฉ้อฉลเรื่องการแต่งงานในการที่จะได้รับสิทธิประโยชน์จากวีซ่าสหรัฐอเมริกานั้นเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงซึ่งเห็นได้จากรายงานที่กล่าวมาแล้วข้างบน ผู้ที่ประสงค์จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเข้าเมืองอเมริกันนั้นพึงระลึกไว้เสมอว่า การที่จะหลอกเจ้าหน้าที่การเข้าเมืองหรือพยายามที่จะหลอกลวงรัฐบาลสหรัฐอเมริกาหรือเจ้าหน้าที่ต่างๆนั้น ไม่ใช่วิธีที่ชาญฉลาด แม้ว่าจะกลายเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาแล้ว แต่การกระทำที่หลอกลวงในขั้นตอนการทำวีซ่านั้นอาจจะทำให้ถูกถอนสัญชาติและมีความผิดทางอาญา
เพื่อผลประโยชน์ทางวีซ่า ควรที่จะปรึกษาทนายอเมริกันที่มีใบอนุญาตเพื่อที่จะดำเนินการในเรื่องกระบวนการคนเข้าเมืองเพราะทนจายอเมริกันที่ได้รับอนุญาตและมีความเข้าใจอย่างถูกต้องอย่างน้อยในหนึ่งรัฐนั้นก็มีสิทธิที่จะให้คำแนะนำ คำปรึกษา หรือการดำเนินการแทน
To view this posting in English please see: Denaturalization.
9th April 2010
To see related information in English please see: 221g.
ยังคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการที่วีซ่าถูกปฏิเสธภายใต้มาตรา 221 (G ) สำหรับคำร้องขอวีซ่าจากประเทศไทย การปฏิเสธวีซ่าตามมาตรา 221 (G ) ก็คือการปฏิเสธเพื่อขอหลักฐานเพิ่มเติม เมื่อเจ้าหน้าที่กงสุลตัดสินใจว่าจะออกวีซ่าสหรัฐอเมริกาให้หรือไม่ ( ในการนี้ให้ดูเรื่อง วีซ่าคู่หมั้น K1, K3 หรือ วีซ่าคู่สมรส CR1 ) เจ้าหน้าที่จะทำการสืบเสาะข้อเท็จจริงเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ขอวีซ่าเป็นบุคคลตามที่กล่าวอ้างจริง และจะเดินทางไปสหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผลที่มีมูล ( ในกรณีเช่นนี้หมายความว่าต้องเป็นการเดินทางไปเพื่อวัตถุประสงค์ความสัมพันธ์ทางครอบครัวกับผู้ร้องสัณชาติอเมริกัน )
คู่รักบางคู่มีความกังวลใจเมื่อได้รับ แบบ 221 (G) และก็อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่โดยเฉพาะกรณีที่ผู้ขอวีซ่ามาจากต่างจังหวัด ซึ่งก็เป็นปัญหาได้ หากว่าผู้ขอวีซ่ามีสำมะโนครัว (ทะเบียนบ้าน ) อยู่ต่างจังหวัดและเป็นการยากต่อการเดินทางกลับไป บ่อยครั้งที่เอกสารที่ถูกเรียกจะต้องออกโดยอำเภอที่ผู้ขอวีซ่ามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติสำหรับสถานทูตที่จะออก คำร้องขอเอกสารเพิ่มเติมในลักษณะนี้ แต่ก็สามารถเป็นเรื่องลำบากสำหรับผู้ขอวีซ่าชาวไทยที่จะไปนำเอกสารที่จำเป็นนั้นมาให้ได้
การปฏิเสธวีซ่าภายใต้มาตรา 221 (g) นี้โดยทั่วไปแล้วจะให้เวลาผู้ขอวีซ่า 1 ปีในการหาเอกสารที่ได้รับการร้องขอก่อนที่สถานทูตจะทำการทำลายไฟล์ของคุณ หากไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอนี้ ก็อาจจะทำให้คำร้องขอวีซ่าของคุณถูกยกเลิกและต้องเริ่มกระบวนการใหม่อีกครั้งหนึ่ง
เพื่อหลีกเลี่ยงการปฏิเสธวีซ่าภายใต้มาตรา 221 ( G) อาจจะเป็นการดีที่จะขอความช่วยเหลือจากทนายความด้านกฎหมายคนเข้าเมือง เพื่อป้องกันการปฏิเสธวีซ่าภายใต้มาตรา 221 ( G) แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะได้มีการจ้างทนายความแล้ว คุณก็ยังคงสามารถถูกปฏิเสธวีซ่าภายใต้มาตรา 221 ( G) ได้ หากว่ามีเอกสารอื่นที่จำเป็นต้องแสดง เจ้าหน้าที่กงสุลมีอำนาจดุลพินิจอย่างกว้างขวางตามอำนาจเด็ดขาดของกงสุล ดังนั้น คำร้องขอเอกสารเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้ากงสุลเป็นเรื่องที่คุณต้องให้การตอบรับคำร้องขอนั้นภายในเวลาที่กำหนดให้
The hiring of a lawyer is an important decision that should not be based solely on advertisement. Before you decide, ask us to send you free written information about our qualifications and experience. The information presented on this site should not be construed to be formal legal advice nor the formation of a lawyer/client relationship.