blog-hdr.gif

Integrity Legal

Posts Tagged ‘วีซ่า K3’

13th December 2010

ประเด็นเรื่องการฉ้อโกงในการเข้าเมืองเป็นเรื่องที่ร้ายแรงเรื่องหนึ่ง เจ้าหน้าที่รัฐของสหรัฐอเมริกาในกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (USCIS) กระทรวงของรัฐ (DOS) หน่วยบริการคนเข้าเมืองและพลเมืองสหรัฐอเมริกา (USCBP) และหน่วยบังคับการคนเข้าเมืองและศุลกากร(USICE)ทั้งหมดนี้อยู่ในความรับผิดชอบที่จะต้องตรวจสอบและสอบสวนเกี่ยวกับการฉ้อฉลเรื่องวีซ่าและการเข้าเมือง ผู้เขียนคิดว่ามีความน่าสนใจในเรื่องการบริการคนเข้าเมืองและการพิธีการทางศุลกากร ได้มีการอ้างอย่างเป็นทางการในฐานะ ICEถึงการจับกุมชาวไนจีเรียที่มีส่วนพัวพันกับการปลอมแปลงวีซ่าสหรัฐอเมริกา อ้างโดยตรงจากเว็บไซต์ ICE.gov

ฮูสตั้น- เมื่อวันจันทร์มีการถอนสัญชาติอเมริกันของชายชาวไนจีเรียที่ถูกตัดสินว่า สมรู้ร่วมคิดในการฉ้อฉลการแต่งงาน ฉ้อฉลเรื่องแปลงสัญชาติ และปลอมแปลงข้อความต่างๆต่อตัวแทนของรัฐ คำตัดสินนี้ได้มมีการแถลงโดยทนายสหรัฐอเมริกาโจส์ แองเจิ้ล โมเรโน ทางใต้ของรัฐเท็กซัส การสอบสวนได้ดำเนินการโดยการบังคับการทางศุลกากรและคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกา (ICE) สำนักงานการสอบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (HSI) อิบบราฮิม อดีนีน อายุ 33 ปีผู้ซึ่งมีถิ่นกำเนิดที่ไนจีเรียและได้รับการแปลงสัญชาติเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาถูกตัดสินโดยคณะลูกขุน เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม เขาอยู่ในความควบคุมขอองส่วนกลางเป็นเวลา 6 เดือน ผู้พิพากษาเขตในสหรัฐอเมริกาเคนเนท ฮอทพิพากษาให้อดีนีนจำคุกในเรือนจำ ผู้พิพากษายังได้รับคำภร้องจากรัฐบาลให้ถอนสัญชาติสหรัฐอเมริกา อดีนีนยังถูกเนรเทศออกนอกประเทศด้วย

การทำให้ขาดสิทธิจากการเป็นพลเมืองเป็นกระบวนการที่บุคคลนั้นถูกถอนสัญชาติสหรัฐอเมริกาและกลับไปถือสัญชาติอื่น ในประเด็นของการปลอมแปลงการแต่งงานและกระบวนการเข้าเมมืองสหรัฐอเมริกา มีรายงานว่า

การสอบสวน ICE HIS เริ่มต้นเมื่อปี 2008 อดีนีนนั้นเกี่ยวพันกับการเป็นนายหน้าระหว่างคนสัญชาติไนจีเรียและพลเมืองสหรัฐอเมริกาเพื่อที่ว่าคนสัญชาติไนจีเรียจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเข้าเมือง ทั้งหมดนี้เพื่อนำไปสู่การเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกา “คู่หมั้น”ชาวอเมริกันนั้นได้รับค่าตอบแทนในการหลอกลวงเป็นเงินสด

การร่วมมือกันฉ้อฉลเรื่องการแต่งงานในการที่จะได้รับสิทธิประโยชน์จากวีซ่าสหรัฐอเมริกานั้นเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงซึ่งเห็นได้จากรายงานที่กล่าวมาแล้วข้างบน ผู้ที่ประสงค์จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเข้าเมืองอเมริกันนั้นพึงระลึกไว้เสมอว่า การที่จะหลอกเจ้าหน้าที่การเข้าเมืองหรือพยายามที่จะหลอกลวงรัฐบาลสหรัฐอเมริกาหรือเจ้าหน้าที่ต่างๆนั้น ไม่ใช่วิธีที่ชาญฉลาด แม้ว่าจะกลายเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาแล้ว แต่การกระทำที่หลอกลวงในขั้นตอนการทำวีซ่านั้นอาจจะทำให้ถูกถอนสัญชาติและมีความผิดทางอาญา

เพื่อผลประโยชน์ทางวีซ่า ควรที่จะปรึกษาทนายอเมริกันที่มีใบอนุญาตเพื่อที่จะดำเนินการในเรื่องกระบวนการคนเข้าเมืองเพราะทนจายอเมริกันที่ได้รับอนุญาตและมีความเข้าใจอย่างถูกต้องอย่างน้อยในหนึ่งรัฐนั้นก็มีสิทธิที่จะให้คำแนะนำ คำปรึกษา หรือการดำเนินการแทน

To view this posting in English please see: Denaturalization.

more Comments: 04

31st May 2010

For the original posting in English please see: US Visa Thailand

สำหรับคนอ่านกระทู้ของผู้เขียนบ่อยๆ  อาจจะเข้าใจหลักพื้นฐานของสิทธิทางด้านคนเข้าเมืองของบุคคลที่นิยมเพศเดียวกัน ( Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender ) กฎหมายคนเข้าเมืองของสหรัฐอเมริกา ภายใต้กฎเกณฑ์ปัจจุบัน รวมถึงพระราชบัญญัติปกป้องสิทธิทางการสมรส กำหนดว่าคู่สมรสเพศเดียวกันที่มีสองสัญชาติถูกห้ามไม่ให้รับสิทธิตามกฎหมายคนเข้าเมืองอิงถึงการสมรสเพศเดียวกันที่ถูกต้องตามกฎหมาย คู่รักตามกฎหมาย หรือ คู่สมรสโดยไม่จดทะเบียน นั่นหมายความว่า ในปีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเช่น เจอรี่ แนดเลอร์ ได้เสนอกฎหมายที่รู้จักกันในชื่อ พระราชบัญญัติการรวมครอบครัวอเมริกัน หรือ UAFA ซึ่งกำหนดวิธีการขอรับประโยชน์ทางกฎหมายคนเข้าเมืองสำหรับคู่รักถาวรที่มีเพศเดียวกัน ในกระทู้ก่อนๆ ผู้เขียนได้พูดเรื่องการปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองให้ครอบคลุม และ การเปลี่ยนแปลงกฎหมายคนเข้าเมืองของอเมริกา ที่อาจจะมีหรือไม่มี ในเรื่องที่อนุญาติให้คู่รักเพศเดียวกันที่มีสัญชาติต่างกัน ขอรับผลประโยชน์ตามกฎหมายคนเข้าเมืองตามหลักของครอบครัวได้ ในกระทู้ก่อนเราพูดถึงร่างกฎหมายปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองที่เสนอโดยสมาชิกสภารัฐอิลลินอยส์ ลูอิส กุทเทอเรส และ ร่างที่ว่าไม่ได้รวมถึงผลประโยชน์ด้านกฎหมายคนเข้าเมืองของบุคคลเพศเดียวกัน หมายเหตุ บทความข้างล่างตัดมาจาก WashingtonBlade.com:

สมาชิกสภาผู้ทรงอิทธิพลหัวก้าวหน้าด้านกฎหมายคนเข้าเมืองได้แนบรวมข้อบัญญัติเกี่ยวกับการปกป้องคู่รักที่มีสัญชาติต่างกันประเภท เลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล และบุคคลแปลงเพศ เป็นส่วนหนึ่งของร่างปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองให้ครอบคลุม จากปฐากฐาเมื่อวันพฤหัส สมาชิกสภา ลูอิส กุทเทอเรส (รัฐอิลลินอยส์) ได้กล่าวสรุปได้ว่าร่างพรบ.ปฏิรูปนี้เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องอนุญาติให้คนอเมริกันสามารถสนับสนุนการมีถิ่นฐานในสหรัฐให้แก่คู่รักร่วมเพศของตนได้  “ความพยายามในการที่จะแก้ไขระบบกฎหมายคนเข้าเมืองที่แตกร้าวและปกป้องสิทธิพื้นฐานจะไม่เป็นการครอบคลุมกาดว่าเราไม่รวมเอาคู่รักเพศเดียวกันเข้าไปด้วย”  เขากล่าวว่าการผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้จะทำให้คู่รักร่วมเพศราวๆ 36,000 คู่ได้อยู่ด้วยกันในสหรัฐอเมริกา หรือที่เรียกว่าร่างพระราชบัญญัติรวมครอบครัวอเมริกัน  ผู้สนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้ได้มองหาการรวมรวมพระราชบัญญัติเข้าไว้เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองในสภาคองเกรส กุทเทอเรสมีนัดประกาศการสนับสนุนอย่างเป็นทางการของเขาในวันจันทร์ในงานแถลงข่าวที่ชิคาโก อิลลินอยส์ ร่วมกับสมาชิกฯ ไมค์ คลิกลีย์ และ สมาชิกสภาเกย์ จาเร็ด โปลิส ( โคโลราโด)  ซึ่งสนับสนุนการรวบรวมคู่รักร่วมเพศเข้าไปในการปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมือง   ปลายปีที่แล้ว กุทเทอเรสเสนอร่างฉบับของเขาซึ่งเป็นทางเลืกของร่างพรบ.ที่กำลังปฏิบัติกันในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตามแม้ว่ากุทเทอเรสจะเป็นผู้สนับสนุนร่วมในหการยกร่างกฎหมาย ร่างกฎหมายก็ไม่ได้รวมเรื่องของคู่รักร่วมเพศไว้ดังที่กล่าว จากคำบอกเล่าของคนในสำนักงานของกุทเทอเรส กล่าวว่า การประกาศครั้งล่าสุดของนักนิติบัญญัติผู้นี้เป็นการยืนยันการรวมเอาสิทธิคู่รักร่วมเพศไว้ในการปฏิรูปที่ครอบคลุม

ในกระทู้ก่อนๆซึ่งพูดถึงการเสนอร่างปฏิรูปกฎหมายคนเข้าเมืองให้ครอบคลุม  ผู้เขียนพบว่า โชคไม่ดีที่ประเด็นการเข้าเมืองของคู่รักร่วมเพศไม่ได้มีการพูดถึงในตัวร่าง นั่นหมายความว่าอย่างไรก็ดีผู้เขียนก็ยังดีในที่ประเด็นนี้ได้ถูกนำมาพูดถึงในเรื่องของการปฏิรูป และหากว่าประเด็นป่านก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงกฎหมายคนเข้าเมืองกลางครั้งใหญ่ในอย่างน้อยที่สุด 25 ปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้การที่มันถูกหยิบยกมาพูกถึงก็เหมือนเป็นสัญญาณว่ามีความเป็นไปได้ว่ากฎหมายคนเข้าเมืองอเมริกันจะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สิทธิแก่คู่รักที่ในขณะเวลาที่กำลังเขียนไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ในสหรัฐอเมริกาเช่นคู่รักต่างเพศ

more Comments: 04

11th May 2010

ในเคสที่วีซ่าถูกปฏิเสธ ก็อาจจะหาทางแก้โดยการยื่นขออภัยโทษได้หากว่าการปฏิเสธเกิดจากการมีเหตุที่ทำให้ไม่สามารถเข้าเมืองได้ การขออภัยโทษแบบนี้ เราเรียกว่า I-601 ครั้งหนึ่งหากว่าผู้ขอวีซ่ามีเชื้อ HIV ก็จะถูกปฏิเสธวีซ่าด้วยเหตุนี้เหตุเดียวหากว่าไม่มีเหตุอื่นที่พบอีก อย่างไรก็ตามเร็มๆนี้หน่วยงานคนเข้าเมืองสหรัฐได้เปลี่ยนกฏใหม่ ตามประกาศของ สมาคมนักกฎหมายคนเข้าเมืองอเมริกัน (AILA) :

“ การติดเชื้อ HIV ไม่ใช่เหตุที่ทำให้ไม่สามารถเข้าเมืองได้อีกต่อไป หากคุณติดเชื้อ HIV ก็ไม่จำเป็นต้องยื่นขออภัยโทษ I-601 เพราะเหตุที่คุณป่วยด้วยเชื้อ HIV อีกต่อไป จากข้อสังเกตุ ในแบบ I-601 มีการลบวิธีการดำเนินการและข้อความใดๆเกี่ยวกับการติดเชื้อ HIV ออกไปแล้ว”

นี่ไม่ใช้กฎข้อเดียวที่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากวิธีการยื่นขออภัยโทษเองก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเพื่อให้มีความแม่นยำในเรื่องของภูมิลำเนาที่ยื่นเช่นเดียวกับการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์อื่นๆ

“นอกจากนี้ USCIS ได้ประกาศว่ามีการปรับเปลี่ยนวิธีการยื่น และที่อยู่ที่จะต้องยื่นแบบ I-601 การเปลี่ยนสถานที่ยื่นแบบเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะทำให้เกิดประโยชน์ของสำนักงาน USCIS ท้องถิ่นและ หน่วยรับเรื่องของ USCIS โดยรวมที่ยื่นแบบและจ่ายค่าธรรมเนียมให้อยู่ที่ หน่วยรับเรื่องหน่วยเดียวเพื่อให้ USCIS สามารถให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพในเรื่องของแบบคำร้องและค่าธรรมเนียม ”

วิธีการใช้ศูนย์รับเรื่องนี้ใช้กับกรณียื่นวีซ่าถาวร เช่น IR1 และ CR1 ซึ่งเปิดโอกาศให้ USCIS เตรียมระบบการจัดการกับคำขอวีซ่าได้เนื่องจากมันถูกส่งไปที่สถานที่ๆเดียว อย่างไรก็ดี วีซ่า K1 และ K3 จะต้องยื่นแก่ ศูนย์ USCIS ที่มีเขตอำนาจเท่านั้น

ในกรณีที่ แบบ I-601 นั้นยื่นในต่างประเทศ คำร้องมักถูกยื่นผ่าน สถานทูตหรือกงสุลสหรัฐอเมริกาที่วีซ่าถูกปฏิเสธ ซึ่งนี่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่กงสุลทำความเห็นเกี่ยวกับคำร้องได้ ผู้ที่สนใจจะยื่นคำร้องขออภัยโทษโปรดจำไว้ว่าทนายความสหรัฐอเมริกาที่มีใบอนุญาติ หรือตัวแทนที่มีใบอนุญาติเท่านั้นที่สถานทูตสหรัฐและ USCIS ยอมให้เป็นตัวแทนของเจ้าของเรื่องในการติดต่อได้ นั่นหมายความว่า จะต้องเป็นทนายเท่านั้นจึงจะสามารถเรียกค่าธรรมเนียมเพื่อการยื่นคำร้องนี้ได้ และหน่วยงานที่เป็นตัวแทนที่ได้รับอนุญาติส่วนใหญ่ที่กระทำการแทนได้ก็มักเป็นหน่วยงานไม่หวังผลประโยชน์ที่เพียงเก็บค่าการเป็นตัวแทน ( ถ้าหากว่าจะมีการเรียกเก็บ ) เมื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อพยพ บุคคลที่ไม่มีใบอนุญาติให้เป็นตัวแทนลูกความในกระบวนการคนเข้าเมืองไม่สามารถเรียกค่าธรรมเนียมเพื่อเป็นตัวแทนได้ตามกฎหมายสหรัฐอเมริกา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม คลิกที่นี่

more Comments: 04

3rd May 2010

For information in English please see: K3 Visa.

วีซ่าเค ทรี ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกด่วนของวีซ่าคู่สมรสถาวร เช่นวีซ่า IR1 และ CR1 สมัยก่อนการขอวีซ่าคู่สมรสถาวรต้องใช้เวลาถึง 3 ปีซึ่งเป็นเหตุผลที่สภาคองเกรสได้ให้มีวีซ่า เค ทรี อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความจำเป็นที่จะต้องมีวีซ่าเค ทรี ได้มีน้อยลงเมื่อเทียบกับเวลาดำเนินการที่ใช้ในอดีต วีซ่าคู่สมรสถาวรใช้เวลาประมาณ 11-12 เดือน เมื่อเทียบระยะเวลานี้กับระยะเวลาขอวีซ่าเค ทรี ก็จะเห็นได้ว่าวีซ่าเค ทรีนั้นมีความจำเป็นน้อยลงทุกที

และเพราะเหตุนั้น NVC สังกัดกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้ออกประกาศที่เกี่ยวข้องกับวีซ่า เค ทรี ข้อความต่อไปนี้ ตัดมาจากบทความตีพิมพ์ของกระทรวงต่างประเทศเผยแพร่ สมาคมทนายความคนเข้าเมือง (AILA)

ประกาศสำคัญ : มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2553 เมื่อคำขอ I-129F สำหรับวีซ่าเค ไม่ถาวี และ คำขอ I-130 สำหรับวีซ่า IR1 หรือ CR1 สำหรับคู่สมรสของบุคคลสัญชาติสหรัฐได้รับการอนุมัติจาก USCIS และถูกส่งมาที่ NVC การมีอยู่และความจำเป็นที่จะต้องออกวีซ่าไม่ถาวร เค ทรี ถือว่าสิ้นสุดลง หากว่า NVC ได้รับคำร้องทั้งสองประเภท:

วีซ่าเคไม่ถาวรจะถูกปิดเรื่อง ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าที่อธิบายไว้ด้านล่างไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกต่อไป

NVC จะติดต่อผู้ยื่นขอและตัวคุณพร้อมทั้งขั้นตอนในการดำเนินการวีซ่าถาวร IR1 (หรือ CR1 ) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการขอวีซ่า โปรดดูหน้าเว็บไซต์วีซ่าถาวรสำหรับคู่สมรส หากว่า NVC ไม่ได้รับคำขอ I-130 และ I 129F ในเวลาเดียวกันจะเดินเรื่องคำขอ I 129F (K1) ของคุณ และจะส่งคำขอไปยังสถานทูตหรือกงสุลในประเทศที่การสมรสเกิดขึ้น หากว่าการสมรสเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา NVC จะส่งคำขอไปยังสถานทูตหรือกงสุลประเทศที่คุณมีสัญชาติ หากว่าการสมรสเกิดขึ้นในประเทศที่ไม่มีสถานทูตอเมริกัน หรือ เป็นสถานทูตที่ไม่สามารถออกวีซ่าให้ได้ NVC จะส่งคำขอไปยังสถานทูตหรือกงสุลที่ดำเนินการด้านวีซ่าให้แก่คนสัญชาตินั้นๆ ตัวอย่างเช่น หากว่าการสมรสเกิดขึ้นในประเทศอิหร่านซึ่งสหรัฐอเมริกาไม่มีสถานทูตอยู่ คำขอวีซ่าจะถูกส่งไปยังประเทศตุรกี” NVC

มีบางคนชอบถามตัวเองว่า ทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไร USCIS พิจารณาคำขอวีซ่าทั้งหมดและเมื่ออนุมัติ จะส่งต่อไปยัง NVC ซึ่ง NVC จะจัดการกับคำขอวีซ่า เค ทรี ก่อนที่จะส่งไปยังกงสุลหรือสถานทูตในต่างประเทศ (สำหรับคำขอที่จะต้องดำเนินการในประเทศไทย NVC จะจัดการคำขอก่อนที่สถานทูตสหรัฐประจำกรุงเทพมหานครจะได้รับเรื่อง )

ประเด็นสำคัญคือ NVC จะไม่ดำเนินการวีซ่าเค ทรี หากว่าคำขอวีซ่าถาวรนั้นมาถึง NVC ก่อนหรือพร้อมกับคำขอวีซ่า เค ทรี ในทางปฏิบัติคำขอวีซ่าเค ทรี ทั้งหมดมีคู่ฉบับวีซ่าถาวร เชื่อได้ว่า โดยส่วนมาก  NVC รับคำขอพวกนี้ในเวลาไล่เลี่ยกัน หรือเกือบจะพร้อมๆกัน อาจจะมีบางกรณีที่คำขอเค ทรีไปถึง NVC ก่อนคำขอวีซ่าถาวร แต่โดยส่วนใหญ่นี่ไม่ใช่ประเด็น จากการสังเกตพบว่าอาจจะไม่มีวีซ่าเค ทรีสำหรับผู้ที่ต้องการขอวีซ่าคู่สมรสเนื่องจากคำขอวีซ่าถาวรจะถึง NVC ก่อน หรือพร้อมๆกับคำขอวีซ่า เค ทรี นั่นเอง

more Comments: 04

The hiring of a lawyer is an important decision that should not be based solely on advertisement. Before you decide, ask us to send you free written information about our qualifications and experience. The information presented on this site should not be construed to be formal legal advice nor the formation of a lawyer/client relationship.