
Integrity Legal
- Legal Blog
- Integrity Legal Home
- Thai Visa
- Company in Thailand
- Real Estate Thailand
- US Visa
- Contact Us
Archive for the ‘ธูรกิจในประเทศไทย’ Category
14th March 2011
จีน อาเซียน และธุรกิจอาเซียนเปิดประเด็นนการรวมกลุ่มและการได้มาซึ่งสิทธิ
Posted by : admin
เมื่อเร็วๆนี้มีสิ่งที่น่าสนใจโดยผ่านทางนาย พอลล์ ฮวง สำนักงานกฎหมายเซนลอว์ในเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาขนจีนว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนจะส่งเสริมกฎระเบียบของการทบทวนการรวมกลุ่มและบริบทของการรักษาความสงบของประเทศ อ้างโดยตรงจาก พอลล์ ฮวง
สภารัฐแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีนได้ออกกฎที่รอคอยมายาวนานและขั้นตอนของการทบทวนความมั่นคงของประเทศในการรวมกันของชาวต่างชาติและการได้มาซึ่งสิทธิ กฎการได้มาซึ่งสิทธิฉบับใหม่นี้จะเริ่มใช้ในเดือนมีนาคมปี 2011 ภายใต้กฎดังกล่าว คณะกรรมการความมั่นคงของประเทศซึ่งนำโดยคณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนาแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนจีน ซึ่งมีการทบทวนการรวมกลุ่มกันภายใต้กฎเกี่ยวกับแอนตี้ทรัสต์ของจีนจะมีการทบทวนกการรวมกลุ่มและการได้มาซึ่งสิทธิของบริษัทที่มีวัตถุประสงค์สำคัญในด้านการป้องกัน การเกษตร พลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติ สาธารณูปโภค การคมนาคมและอุตสาหกรรมทางเทคโนโลยีและการผลิตอุปกรณ์ การประยุกต์ใช้คำจำกัดความในความหมายอย่างกว้างของความมั่นคงของประเทศ การประเมินผลกระทบของการจัดการกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ กฎระเบียบของสังคมและความสามารถในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในการป้องกันประเทศ
ผู้เขียนบทความนี้ขอแนะนำให้ผู้อ่านหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากส่วนของการตีพิมพ์ของเว็บไซต์เซ็นลอว์เนื่องจากในเว็บไซต์นี้มีข้อมูลและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางกฎหมายที่เกิดขึ้นในบริบททางธุรกิจของจีน
เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติจำนวนมากได้มองหาโอกาสทางธุรกิจในเอเชีย นักลงทุนจะต้องเพิ่มความจำเป็นสำหรับนักลงทุนในการปฏิบัติตามกฎหมายที่บังคับใช้ในท้องถิ่นนั้นและกฎระเบียบต่างๆ ระบบกฎหมายในภูมิภาคเอเชียมีทั้งส่วนที่คล้ายมาก หรือแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับระบบกฎหมายตะวันตก ตัวอย่างเช่น SAR ฮ่องกง จีน มีระบบกฎหมายที่มีรากฐานมาจากการระบบกฎหมายแบบคอมมอน ลอว์ กิจการภายในรัฐนั้นมีข้อเท็จจริงที่เคยเป็นเครือจักรภพของอังกฤษ ในขณะเดียวกัน “จีนแผ่นดินใหญ่” มีระบบกฎหมายที่ไม่ค่อยเหมือนประเทศต่างๆในโลก ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีระบบกฎหมายที่แตกต่างจากประเทศอื่นในโลกในขณะเดียวกันก้อยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของไทย
ตลาดหลักทรัพย์ตะวันตกจำนวนมากได้ประกาศนโยบายการรวมกลุ่มกันโดยหลายเขตอำนาจและการได้มาซึ่งสิทธิ กิจการของรัฐต่างๆนั้นสร้างความซับซ้อนในง่มุมกฎหมายที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องการดำเนินธุรกิจเพิ่มบริบทในระหง่างชาติมากขึ้น เนื่องจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเปิดตลาดหลักทรัพย์แห่งใหม่ในหลายประเทศเช่น ลาวและกัมพูชา สิ่งที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นคือ ระบบกฎหมายในประเทศเหล่านั้นมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่นจักลงทุนต่างชาติในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจในเขตอำนาจเหล่านั้น สิ่งที่เป็นที่น่าสนใจในการติดตามการพัฒนาเนื่องจากการประกอบธุรกิจในจีนและประเทศต่างๆซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) กลายเป็นการครองตลาดทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น
To view this information in English please see: business in China.
12th January 2011
ลาวเปิดการซื้อขายในตลาดหุ้นเพื่อที่จะช่วยเพิ่มเงินทุน
Posted by : admin
ผู้ที่สนใจที่จะประกอบธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจจะเป็นที่สนใจว่า ลาว (ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการคือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว)เพิ่งจะมีการประกาศเปิดตลาดหลักทรัพย์ อ้างโดยตรงจากบทความเมื่อเร็วๆนี้ในเว็บไซต์ของ BBC:
การซื้อขายหลักทรัพย์ของลาวนั้นได้เปิดดำเนินการแล้วในวันอังคารโดยการซื้อขายของสองบริษัท
ประเทศที่อยู่ตรงกลางระหว่างเวียดนามและไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ยากจนที่สุดในโลก
ลาวหวังว่า ตลาดหุ้นจะช่วยเพิ่มเงิน 8 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ (5.1 พันล้านปอนด์)และขายพันธบัตรเพื่อหาเงินทุนแก่ประเทศ
การซื้อขายของลาวเป็นการเริ่มต้นที่จะนำเสนอขายหุ้นของสองบริษัทคือ บริษัทอิเล็คทริค เดอ ลาวและบานค์ พอว์ ลี คอมเมิร์ซ เอ็กซ์ทีเรีย ลาว
มูลค่าการซื้อขายในวันแรกเป็นไปอย่างเบาบาง ประมาณ 2.14พันล้านกีบ ($265,000; £170,000)
แม้ว่าการซื้อขายอาจจะไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐอเมริกา เครือจักรภพอังกฤษ หรือแม้แต่ประเทศไทย แต่มีแนวโน้มที่การเปลี่ยนแปลงนี้จะขยายโอกาสแก่นักลงทุนชาวต่างชาติที่จะประกอบธุรกิจในลาว หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเปิดตลาดหุ้นนี้จะเป็นการนำทาง ให้ลาวมีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคนี้ ดินแดนที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลที่มีประชากรและทรัพยากรธรรมชาติที่ไม่มากนั้นอาจกล่าวได้ว่า ความหวังของลาวในการสร้างงานและพัฒนาระบบเศรษฐกิจในประเทศจะได้รับเงินทุนจากต่างชาติมากขึ้นในรูปแบบของทั้งการพัฒนาและผลกำไร
ลาวเป็นสมาขิกของประชาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมานี้ สมาชิกของอาเซียน(ASEAN)ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในระบบเศรษฐกิจในขณะที่เงินดอลลาห์สหรัฐกำลังอ่อนค่าลง อย่างน้อยที่สุดคือ มาตรการที่ทุ่มเงิน ไปในระบบเศรษฐกิจที่ธนาคารกลางประกาศใช้ ในขณะเดียวกัน เงินหยวนของจีนกำลังแข็งค่าขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจจีนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง องค์ประกอบเหล่านี้ประกอบกับปัจจัยอื่นๆส่งผลต่อความไม่แน่นอนครั้งยิ่งใหญ่เกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจหลายๆชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สิ่งที่พึงระลึกถึงคือ เมื่อเร็วๆนี้ บริการข่าวของจีนรายงานว่า กรุงเทพจะมีบ้านหลังใหม่มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาห์สหรัฐในคอมเพล็กซ์การค้าของจีน ในตอนท้ายของข่าวนี้กล่าวว่า จีน ลาวและประเทศไทยจะเชื่อมโยงกันด้วยรถไฟความเร็วสูง หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ปัจจัยหลายๆอย่างนั้นกับเงินทุนเพิ่มเติมโดยการซื้อขายในตลาดลาวจะช่วยสร้างบรรยากกาศในการดำเนินธุรกิจที่ดีแก่จีน ไทย ลาวและสมาชิกทั้งหมดในประชาคมอาเซียน (ASEAN)
To find this information in English please see: US Visa Laos
11th January 2011
สร้างคอมเพล็กซ์การค้าจีนมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านบาทในกรุงเทพฯ ประเทศไทย
Posted by : admin
เมื่อเร็วๆนี้ผู้เขียนเห็นว่า มีสิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ คอมเพล็กซ์การค้าแห่งใหม่ถูกจัดตั้งขึ้นในกรุงเทพฯเพื่อเอื้อต่อการค้าของจีนในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อ้างโดยตรงจากเว็บไซต์ของวอยซ์ออฟอเมริกา (Voice of America News)
สื่อของจีนกล่าวว่า การทำงานจะเริ่มต้นในเดือนนี้ในคอมเพล็กซ์ที่กรุงเทพฯซึ่งผู้ผลิตของจีนสามารถที่จะส่งออกสินค้าได้
หนังสือพิมพ์ประจำวันของจีนกล่าวเมื่วันพฤหัสบดีว่า คอมเล็กซ์ซิตี้จีนนี้มีมูลค่า 1.5 พันล้านบาทและมีพื้นที่เกือบจะ สามในสี่ตารางกิโลเมตร ผู้ผลิตจีนสามารถที่จะนำเข้าสินค้ายังประเทศไทย ได้รับผลประโยชน์จากการตกลงการค้าใหม่นี้ และส่งสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกาและยุโรปปภายใต้สิทธิประโยชน์ทางโควต้าและภาษี
เป็นเรื่องที่นน่าสนใจว่า จีนนั้นกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกในปี 2010 แผนงานนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลที่จะเพิ่มความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจระหว่างจีนและประเทศไทยมากขึ้น วอยซ์ออฟอเมริกาเขียนในเว็บไซต์ดังนี้
จีนกำลังใช้แผนงานการค้าและการพาณิชย์ในการพัฒนาการทูตและยุทธศาสตร์ต่างๆในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อลงกรณ์ พลบุตร ถูกอ้างในหนังสือพิมพ์ประจำวันของจีนว่า คอมเพล็กซ์ซิตี้จีนนั้นสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ดีในลักษณะพันธมิตรทางธุรกิจไทยและจีน
สัญญาการค้าเสรีของจีนกับประเทศสมาชิกในประชาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ข้อสรุปแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา
นอกจากเรื่องทางการทูตและยุทธศาสตร์แล้ว แผนงานนี้จะช่วยส่งผลต่อสิทธิประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมายแก่ประเทศในกลุ่มอาเซียน (ประชาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย แผนงานด้านการการพาณิชย์ที่ได้นำเสนอไปนั้นมีแนวโน้มที่จะช่วยสร้างโอกาสในการทำงานให้แก่คนไทยในแถบกรุงเทพฯ สร้างโอกาสทางธุรกิจแก่นักลงทุนไทย สร้างโอกาสทางการค้าแก่คนไทย จีน และนักลงทุนชาวต่างชาติและเป็นการเพิ่มการหมุนเวียนสินค้า เงินทุน แรงงานและทรัพยากรแก่ประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน
ในแต่ละปี บริษัทต่างชาติและผู้ที่สนใจเลือกที่จะลงทุนทำธุรกิจในประเทศไทย ในบางกรณี นักลงทุนที่รวมกลุ่มกับบริษัทไทยนั้นเพื่อที่จะจำกัดความรับผิดในการทำธุรกิจ ในบางครั้งหลายๆคนเลือกที่จะทำธุรกิจแบบกิจการเจ้าของคนเดียว ห้างหุ้นส่วนนั้นช่วยเพิ่มระดับของการจำกัดความรับผิดร่วมกันตามจำนวนสมาชิกของห้างหุ้นส่วนจำกัดในประเทศไทย ความเสี่ยงที่มากขึ้นทางธุรกิจในประเทศไทยบางครั้งเลือกที่จะจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน ในบางกรณีผู้ที่ต้องการจะลงทุน หรือทำธุรกิจในประเทศไทยควรที่จะติดต่อสำนักงานกฎหมายเพื่อที่จะขอคำแนะนำและปรึกษาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ในกฎหมายไทยที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจให้เป็นที่ปรากฏในตลาดประเทศไทย ชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทยนั้นต้องคำนึงถึงว่า ประเทศไทยต้องมีใบอนุญาตการทำงานจึงจะถูกต้องตามกฎหมายไทย
ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับข้อสงสัยเรื่องทรัพย์สินของไทยหรืออสังหาริมทรัพย์ของไทยภายในบริบทของธุรกรรมทางธุรกิจหลายเขตอำนาจศาลนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีหลากหลายแง่มุม ด้วยเหตุผลนี้เอง ชาวต่างชาติหรือบริษัทต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยควรที่จะใช้บริการของบริษัทที่จะให้ความช่วยเหลือในด้านทรัพย์สินในประเทศไทยในการตัดสินใจรื่องที่เพิกถอนไม่ได้ในประเด็นของอสังหาริมทรัพย์และทรัพย์สินในประเทศไทย
To view this post in English please see: Thai Company.
19th November 2010
เประเด็นของซ็นลอว์ (Cenlaw) ต่อนิทรรศการระดับโลกที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
Posted by : admin
บล็อกเกอร์ได้พบโดยบังเอิญว่าประเด็นที่ถกเถียงกันในช่วงเวลานี้คือ นิทรรศการระดับโลกของจีนสำหรับผู้ที่ไม่ได้ติดตาม ที่เชี่ยงไฮ้ จีนเป็นเจ้าภาพงานนิทรรศการระดับโลกซึ่งคล้ายๆกับมหกรรมงานแฟร์ของโลกซึ่งเป็นครั้งที่จีนเป็นผู้มีบทบาทสำคัญ อ้างโดยตรงจาก Cenlaw
เหวิน เจียเป่ายกย่องงานแฟร์เมื่อวันอาทิตย์ว่า เป็นงานที่ยอดเยี่ยมและเป็นการรวมคนทั่วโลกอย่างแท้จริง นิทรรศการระดับโลกนี้แ)นการแสดงออกถึงแรงบันดาลใจและความคิดของมนุษย์ ตั้งแต่ปี 1851ครั้งที่มีการจัดนิทรรศการที่ยิ่งใหญ่ทางอุตสาหกกรรมของหลายๆชาติที่เมืองลอนดอน นิทรรศการระดับโลกได้แสดงถึงความโดเด่นในฐานะที่เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ทางเศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมซึ่งเป็นเวทีในการแสดงถึงประสบการณ์ทางประวัติศาสตร์ การแลดเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ การแสดงออกถึงความสามัคคีและวิสัยทัศน์ของอนาคตข้างหน้า
นิทรรศการมักจะเป็นเวทีที่ชาติที่เป็นเจ้าบ้านแสดงออกถึงความสำเร็จต่อชาติอื่นๆในโลก กรณีของจีน บางคนที่ไม่ได้ตระหนักถึงความสำเร็จของเศรษฐกิจประเทศจีนในช่วงเวลาหลายๆปีที่ผ่านมาในฐานะที่เป็นชาติที่หนาแน่นมากที่สุดในโลก เนื่องจากมีนโยบายทางเศรษฐฏิจที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจีนยังกลายเป็นประเทศที่มมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก อ้างจากเซ็นลอว์(Cenlaw) ดังนี้
นิทรรศการปี 2010ที่เซี่ยงไฮ้ประเทศจีนมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมและความสัมพันธ์ต่อกัน นวัตกรรมเป็นจิตวิญญาณ ในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมเป็นภารกิจที่สำคัญของนิทรรศการระดับโลก ในยุคใหม่นี้ งานเอ็กซ์โปร 2010ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนสร้างการพัฒนนาศูนย์กลางของมนุษย์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความหลากหลายทางวัฒนธรรม และความร่วมมือที่เท่าเทียมกันเพื่อพัฒนาอนาคตที่ดีกว่า เหล่านี้ประกอบกันเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะสร้างนวัตกรรมและความสัมพันธ์ในทศวรรษใหม่
ผู้เขียนเห็นว่า สิ่งที่น่าสนใจคือ ชาวจีนตัดสินใจที่จะสร้างเศรษฐกิจในแบบที่ได้รับประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายโดยทางความร่วมมือกันและโครงสร้างที่สร้างสรรค์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความพยายามนี้จะส่งผลให้เศรษฐกิจมีความก้าวหน้ามีความสัมพันธ์ที่ดีทางการทูตสำหรับจีน สหรัฐอเมริกา ไทยและหลายๆชาติในเอเชียซึ่งจะได้รับผลประโยชน์จากการเปิดโอกาสทางการค้าและธุรกิจ
ในเรื่องที่ได้มีการโพสต์ไปก่อนหน้านี้ ผู้เขียนกล่าวไว้ว่า สถานทูตอเมริกาประจำประเทศจีนได้มีการดำเนินการเกี่ยวกับการขอวีซ่าประเภทผู้ที่ไม่ใช่คนเข้าเมืองจากกประเทศจีนซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะอยู่ในกรอบเวลาที่มีความเป็นไปได้ ด้วยความพยายามที่จะจัดการกับความต้องการที่มากมายเกี่ยวกับวีซ่า อย่างเช่น วีซ่าอเมริกาประเภทท่องเที่ยว ภารกิจของอเมริกาในจีนนั้นที่กำลังทำอยู่ปัจจุบันนี้คือการนัดสัมภาษณ์ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลลัพธ์ของความพยายามทั้งหมดนี้จะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาได้
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงกันท่ามกลางงความตึงเครียดจากความไม่มีเสถียรภาพระหว่างสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน จากมุมมองที่ผ่านมาในอดีต สถานการณ์ความตึงเครียดของโลกนั้นเกิดขึ้นเนื่องจากการปรากฏตัวของผู้ที่มีบทบาททางเศรษฐกิจใหม่ๆ สถานการณ์ของจีนดูเหมือนว่าจะไม่แตกต่างจากในอดีตที่ผ่านมาในปรากฏการณ์เดียวกัน(ตัวอย่างที่โด่งดังคือ ตัวอย่างของสหรัฐอเมริกาหลังสงครามโลกครั้งที่สอง) แม้ว่าอาจจะมีช่วงเวลาของการปรับเปลี่ยน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนและโอกาสทางการค้าจะช่วยฟฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก กล่วโยสรุปแล้ว ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “น้ำที่กำลังขึ้นย่อมยกเรือขึ้นทุกลำ” ทั้งในจีน สหรัฐอเมริกา และประเทศต่างๆทั่วโลก
To view this information in English please refer to the previous posting.
8th November 2010
แม้ว่าบล็อกนี้แทบจะไม่ค่อยมีการถกเถียงเรื่อง ประเด็นเศรษฐกิจ แต่เมื่อเรื่องเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อประเด็นทางกฎหมาย หรือการเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาซึ่งทำให้การถกเถียงกันในประเด็นนี้เป็นเรื่องที่จำเป็น หลายเดือนที่ผ่านมา เงินดอลลาห์สหรัฐอเมริกาทำให้ค่าเงินของประเทศต่างๆในเอเชียลดลง แต่ไม่ทำให้ค่าเงินหยวนลอยตัวเหมือนเงินสกุลอื่นๆ โดยสรุปแล้ว ภาวะความตึงเครียดทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ระหว่างสหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาชนจีน ราชอาณาจักรไทย และชาติอื่นๆในเอเชีย ในขณะเดียวกัน ค่าเงินของบางประเทศสมาชิกสมาคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ก็เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาห์สหรัฐ ในบทบรรณาธิการที่กล่าวไว้ใน ThaiVisa.com
ในหลายๆสถานการณ์ที่เงินดอลลาห์กำลังดิ่งลง ค่าเงินดอลลาห์ตกไปอยู่จุดต่ำที่สุดในรอบห้าเดือนเมื่อเปรียบเทียบกับเงินยูโร ทองคำซึ่งเป็นเครื่องที่กีดขวางความคาดหวังความเฟ้อในอนาคตสามารถก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดในการคาดการณ์ล่วงหน้าของตลาดซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เต็มไปด้วยระบบทางการเงินที่มีความคล่องตัวกว่าในเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
การบรรเทาทางการเงินจะส่งผลให้เงินดอลลาห์สหรัฐอ่อนค่าลงมากขึ้น และรัฐบาลสหรัฐดำเนินมาตรการขาดดุล ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ก็ดำเนินการตามเพื่อช่วยเหลือการซื้อเงินทุนในภาวะขาดดุลซึ่งไม่มีแนวโน้มที่จะลดลงในอนาคตที่สามารถคาดการณ์ได้เนื่องจากความไม่มีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รายได้จากภาษีที่ลดลง และภาระหนี้ที่เพิ่มมากขึ้น
ความไม่มั่นคงของสหรัฐอเมริกา วิกฤตการณ์หนี้ในยุโรปและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ประเทศไทยจะจัดการกับนโยบายที่ท้าทายนี้อย่างไร สิ่งแรกคือค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เงินบาทนั้นกำลังกลับไปสู่ยุคของก่อนวิกฤตการณ์ปี 1997ในระดับที่ 25 บาทต่อหนึ่งดอลลาห์
สิ่งที่ควรตระหนักถึงคือ เมื่อธนาคารกลางสหรัฐประกาศว่า จะอัดฉีดเงินจำนวนหกพันล้านดอลลาห์สหรัฐในช่วงหลายๆเดือน ตามที่ได้รวบรวมจากข้อความที่มีการรอ้างถึงข้างบน นโยบายการบรรเทาเชิงปริมาณส่งผลให้ค่าเงินดอลลาห์ลดลลงเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินของเอเชีย (และสกุลเงินอื่นๆทั่วโลก แต่บทความนี้มุ่งเน้นไปที่เอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทย) ในบทความที่เขียนลงในหนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นและเผยแพร่ใน ThaiVisa.com รายละเอียดการถกเถียงประเด็นนี้มี ดังนี้
เมื่อเงินทุนหลั่งไหลจากสหรัฐอเมริกามาสู่เอเชียในปริมาณมาก ส่วนมากไม่สามารถไหลไปยังจีน ดังนั้นจึงเงินจึงอยู่ในตลาดที่ปรากฏออกมาเช่นประเทศอาเซียน กรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศไทย กล่าว
“พวกเรา สองเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่มีความแตกต่างในประเด็นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ผมคิดว่า พวกเขาเข้าใจสถานการณ์ที่ลำบาก”นายกร์กล่าว
ค่าของเงินดอลลาห์สหรัฐยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ค่าเงินหยวนของจีนยังไม่เพิ่มขึ้น ประกาศการบรรเทาเชิงปริมาณของสหรัฐฉบับล่าสุดมีจุดมุ่งหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจภายในของสหรัฐ ค่าของเงินในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อต้านกับสหรัฐ ค่าของเงินที่สูงขึ้นนี้ต้องตระหนักถึงการแข่งขันเรื่องการส่งออก
สองยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจ จีนและอเมริกาต่างมีความเสมอภาคกันในทางค่าของเงินและการค้า แต่ประเด็นที่ส่งผลกับคนไทยคือการเพิ่มขึ้นขิงค่าเงินบาท หลายๆคนมองว่า ไม่ได้สนใจในเรื่องค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นและมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ พวกเขาอาจจะคิดถูก อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของค่าเงินที่ผ่านมานั้นสามารรถพิสูจน์ได้ว่า เป็นประโยชน์ต่อคนไทยที่ต้องการวีซ่าผู้ลงทุนในสหรัฐอเมริกา
วีซ่าสหรัฐอเมริกาประเภทEB-5(ประเภทการลงทุนผู้ที่มีถิ่นฐานถาวร)นั้นเป็นเอกสารการเดินทางและผู้ที่อาศัยอยู่ถาวรอย่างถูกต้องตามกฎหมายในการลงทุนที่สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ค่าเงินบาทสูงขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาห์สหรัฐซึ่งกลายมาเป็น “ถูกขึ้น” (ในมุมมองของเงินบาท)เพื่อที่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์การลงทุนในสหรัฐ ดังนั้นเงินดอลลาห์กลายมาเป็นอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินบาทไทยซึ่งกลายมาเป็นแพงกว่าเล็กน้อยจากมุมมองของเงินบาทเพื่อที่จะลงทุนในสหรัฐอเมริกา สำหรับผู้ที่ปรารถนาที่จะตั้งถิ่นฐานในสหรัฐอเมริกา อัตราแลกเลี่ยนเงินบาทต่อเงินดอลลาห์เป็นสิ่งที่คาดไม่ถึง
นี่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเพราะการลงทุนในสหรัฐนำไปสู่การจ้างงานใหม่ นอกจากนี้ การเข้าเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายเป็นหนึ่งในส่วนประกอบหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอเมริกา ความเข้มแข็งกว่าที่ว่า เศรษฐกิจกลายมาเป็นตัวกระตุ้นที่จะช่วยให้เศรษฐกิจโดยรวมมของอเมริกาฟื้นขึ้น อาจจะทำให้ภาคประชาชนและธุรกิจในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกได้รับผลประโยชน์มากขึ้นด้วย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สถานการณ์นี้จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และช่วยฟื้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
To view this information in English please see the previous posting.
10th October 2010
ผู้ที่ติดตามบล็อกนี้อาจจะสังเกตเห็นว่า กิจกรรมทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้นนั้นทำให้บรรยากาศทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศไทยเกิดความวุ่นวาย มีผู้คนจำนวนมากรู้สึกว่า ความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพียงเรื่องที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและไม่ได้หมายความว่า จะทส่งผลเสียในระยะยาว ในช่วงระยะเวลาเพียง 9-12 เดือนที่ผ่านมานี้ ทั้งผู้คนและธุรกิจในประเทศต่างมีความเสี่ยงใหม่ๆเกิดขึ้น อ้างอิงจากเว็บไซต์ Westlawbusiness.com
เมื่อไม่นานมานี้ หลายๆบริษัทเปิดเผยถึงความเสี่ยงที่เกิดจากความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศไทย ตัวอย่างเช่น Priceline.com ซึ่งเป็นผู้ขายทอดตลาดโรงแรมออนไลน์เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้นเป็นกุญแจสำคัญ…..และธุรกิจ Booking.com ในเอเชีย ผลที่ตามมาคือ ยอดการจองในตลาดลดลงเมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับความวุ่นวายในบ้านเมืองตั้งแต่ปีที่ผ่านมาและยังคงดำเนินต่อเนื่องไปอาจจะกระทบกับการดำเนินธุรกิจต่างๆในประเทศไทย
ผู้ผลิตเคเบิ้ลเพื่อการสื่อสาร General Cable รายงานว่า ความเสี่ยงของธุรกิจนี้ขึ้นอยู่กัความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ผู้จัดหาทองแดง อลูมินั่ม สายไฟเบอร์ออฟติค และผลิตภัณฑ์เคเบิลอื่นเปิดเผยว่า ธุรกิจนี้ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ การเมืองเละความเสี่ยงอื่นๆในการบำรุงรักษาและการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ…เมื่อไม่นานมานี้ ประเทศไทยเผชิญกับเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองและการทหารที่สำคัญในหลายๆจังหวัด รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งนั้นถูกปฏิวัติเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2549ซึ่งรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่กำลังเร่งฟื้นฟูประเทศ
เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองนั้นก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างมากมายกับธุรกิจบางส่วนและธุรกิจทั่วเอเชีย นี่เป็นข้อดีของการที่จะบรรษัทข้ามชาติจะมีที่ปรึกษาทางกฎหมายที่มีความเชี่ยวชาญด้านธรรมเนียมการปฏิบัติของธุรกิจท้องถิ่นซึ่งจะช่วยแนะนำลูกความในประเด็นทางกฎหมายที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้และในบางกรณีที่อาจจะเกิดความเสี่ยงได้
คนหลายๆคน รวมทั้งผู้เขียนด้วยต่างรู้สึกว่าความวุ่นวายทางการเมืองที่เกิดขึ้นอยู่นี้เป็นเพียงแค่การชนกันบนถนนที่จะนำไปสู่ความสงบและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิ่งที่พึงระลึกถึงคือ ทุกฝ่ายต่างต้องการก่อตั้งธุรกิจหรือบริษัทในประเทศไทยเช่นเดียวกับการค้นคว้าและสอบทานธุรกิจก่อที่จะมีการตัดสินใจทางธุรกิจในกรุงเทพฯ หรือในตลาดอื่นๆเช่น กัมพูชา ลาว พม่า มาเลเซีย เวียดนามซึ่งเต็มไปด้วยประเด็นทางกฎหมายที่คาดไม่ถึงและประเด็นทางธุรกิจอื่นๆซึงอาจจะเก ดขึ้นในเขตอำนาจของสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย หรือแคนาดา
ผู้ที่ปรารถนาจะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยนั้นเลือกที่จะอยู่ภายใต้บริษัทจำกัดไทยในฐานะที่เป็นนิติบุคคลจำกัดความรับผิด การจำกัดคว่ามรับผิดนั้นเป็นหนึ่งในวิธีการแรกสำหรับผู้ที่ปรารถนาจะหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางธุรกิจที่คาดไม่ถึง ธุรกิจอเมริกันนั้นสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ตามสนธิสัญญาพันธไมตรีไทย-สหรัฐอเมริกา ไม่ว่าโครงสร้างของบริษัทจะเป็นอย่างไร ชาวต่างชาติที่ปรารถนาจะทำงานในเมืองไทยนั้นต้องได้รับใบอนุญาตการทำงานตามการจ้างงานในกฎหมายแรงงาน
To see this post in English please see: Thai Limited Company
The hiring of a lawyer is an important decision that should not be based solely on advertisement. Before you decide, ask us to send you free written information about our qualifications and experience. The information presented on this site should not be construed to be formal legal advice nor the formation of a lawyer/client relationship.