Integrity Legal
- Legal Blog
- Integrity Legal Home
- Thai Visa
- Company in Thailand
- Real Estate Thailand
- US Visa
- Contact Us
Posts Tagged ‘American Law School’
17th January 2011
น่าสงสารทนายความ
Posted by : admin
อาชีพทางกฎหมายนั้นมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆทาง การเพิ่มขึ้นของการบริการทางกฎหมายที่จ้างหน่วยงานอื่นส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงของบุคคลและบริษัทกฎหมายมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ธุรกิจอเมริกันต่างมีความพยายามมากขึ้นที่จะวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการบริการทางกฎหมาย ไม่ว่าเราจะพูดถึงอาชีพทางกฎหมายอย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือ เป็นเรื่องง่ายที่จะเป็นทนายความ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทนายความใหม่ๆไม่ได้หมายความว่าจะร่ำรวยได้โดยอัตโนมัติหรือแม้แต่จะได้รับการว่าจ้าง ในความเป็นจริงแล้ว อาชีพทางกฎหมายในสหรัฐอเมริกาอาจจะไม่งดงามอย่างที่ใครหลายๆคนคิด อย่างน้อยที่สุดคือผู้ที่จบจากโรงเรียนกฎหมายมาใหม่ๆ เมื่อไม่นานมานี้มีบทความในนิวยอร์กไทม์ที่ชื่อว่า “โรงเรียนกฎหมายแพ้เกมหรือไม่” เขียนโดยเดวิด เซเกิล เกี่ยวกับการตรากตรำทำงานหนักของผู้ที่เพิ่งจบจากโรงเรียนกฎหมายและกิจกรรมของผู้จบการศึกษา มันไม่ใช่บทความที่ช่วยยกระดับของทนายความอเมริกันด้วยวิสัยทัศน์ของการแข่งรถและเงินเดือนหกหลักอยู่ในแถวหน้า อ้างโดยตรงจากบทความที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้
ใบปริญญาจำนวนมาก ความขาดแคลนงานและสถิติการจ้างงานในปัจจุบันยอมให้ผลผลิตของนักกฎหมายใหม่ๆผู้ที่จำนองอนาคตกับพฤติกรรมที่ไม่ผิดๆ คุณสามารถที่จะยกตัวอย่างความเดือดดาลและคำติเตียนได้ในบล็อกของโรงเรียนกฎหมาย อย่างเช่น Shilling Me Softly, Subprime JD และ Rose Colored Glasses.
ทุกคนเกลียดทนายความจนกว่าพวกเขาจะต้องการทนาย บล็อกเกอร์ชื่นชอบสมาชิกในแวดวงกฎหมายที่อ้างถึงในภาพยนตร์เรื่อง The Rainmaker ชอบในเรื่องขำขันของทนายแต่อาชีพกฎหมายในสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องชั้นสูงซึ่งต้องทำโดยทนายความ นั่นคือเหตุที่ว่าทำไมผลกระทบของระบบเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มว่าตกต่ำลงในอาชีพทางกฎหมายจึงมีปัญหา ในทางปฏิบัติทางกฎหมาย ทนายความต่างต้องการได้รับการฝึกฝนและคำแนะนำในทางกฎหมายและในหลายๆทางที่เป็นไปได้ นอกจากนี้ โรงเรียนกฎหมายควรที่จะฝึกฝนการเรียนรู้เกี่ยวกับกฎหมายและการประยุกต์ใช้ไม่ใช่การเรียนรู้ที่จะดำเนินธุรกิจอย่างสร้างสรรค์ มันจะปรากฏอยู่ในบางโรงเรียนกฎหมายที่มีการสร้างผลตอบแทนที่จูงใจในค่าใช้จ่ายทั้งหมดของอาชีพทางกฎหมาย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อมีงานทางกฎหมายน้อยและมีผู้ที่จบปริญญาทางกฎหมายมากแต่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของตลาดในปัจจุบัน โรงเรียนกฎหมายไม่ควรที่จะพยายามลดจำนวนนักเรียนให้น้อยลง ทนายความใหม่ๆที่มีพื้นฐานมาจากการท่องจำ ความต้องการงานที่เพิ่มมากขึ้นแต่ตัวเลขงานที่แท้จริงกลับลดลงแต่ผู้ที่ต้องการงานกลับเพิ่มขึ้น
ดูเหมือนว่าเป็นความพยายามที่จะได้ผลประโยชน์ ผู้ซึ่งโชคมักจะมากับผู้ที่มีการศึกษาด้านธุรกิจทางกฎหมายในมุมมองของทนายความใหม่ แต่อย่างไรก็ตามในโลกแห่งความเป็นจริงสำหรับทนายใหม่แล้วย่อมไม่มีหวัง บทความจากนิวยอร์ก ไทม์กล่าวต่อไปว่า
แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้ว่า โรงเรียนกฎหมายจะสรุปว่า ชีวิตของเด็กจบใหม่เต็มไปด้วยความหอมหวาน ในปี 1997เมื่อแหล่งข่าวสหรัฐได้เปิดเผยสถิติเป็นครั้งแรกว่า เด็กจบใหม่จะถูกจ้างงานในเก้าเดือนหลังจากจบการศึกษา โรงเรียนกฎหมายรายงานว่า อัตราการจ้างงานนั้นประมาณ 84 % การจัดอันดับของแหล่งข่าวสหรัฐอเมริกาเมื่อเร็วๆนี้กล่าวว่า กว่า 93เปอร์เซ็นต์ของเด็กจบใหม่นั้นมีงานทำ แต่อีกเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์นั้นว่างงาน
ในโลกของสถิติ ผู้ที่จบจากโรงเรียนกฎหมายจำนวนมากไม่ค่อยที่จะวุ่นวายซึ่งพวกเขากำลังถูกจัดอันดับ โรงเรียนจำนวนมากแม้แต่โรงเรียนที่ไม่ติดอยู่ในอันดับ 40 โรงเรียนของอเมริกา แต่ละรัฐต่างเสนอเงินเดือนในภาคเอกชนเฉลี่ยประมาณ $160,000 แทบจะไม่เหมือนกับผู้ที่จบจากฮาร์วาร์ดหรือเยลล์ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ
โรงเรียนกฎหมายบรรยายภาพของภาวะข้าวยากหมากแพงนี้อย่างไร
“มาตรฐานของ Enronกลายมาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ”วิลเลี่ยม แฮนเดอร์สันแห่งมหาวิทยาลัยอินเดียน่ากล่าว หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายที่ถามสมาคมเนติบัณฑิตอเมริกาเพื่อที่จะยกระดับการที่โรงเรียนกฎหมายประเมินตัวเอง “ทุกๆครั้งที่ดูข้อมูล ผมรู้สึกไม่ค่อยพอใจ”
สถานการณ์ที่ค่อนข้างไร้สาระ โรงเรียนกฎหมายในสหรัฐอเมริกานั้นสร้างภาพให้ผู้ที่จบการศึกษาทางกฎหมายเพื่อที่จะทำให้มีนักเรียนเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันอาชีพทางกฎหมายนั้นได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในแง่ของเศรษฐกิจในฐานะที่ธุรกิจสหรัฐเริ่มที่จะว่าจ้างบริษัทกฎหมายนอกหน่วยงานมากขึ้นและตัวเลขของงานตกต่ำลงเรื่อยๆ อ้างถึงนิวยอร์กไทม์:
ในวันนี้ J.D.หลายๆคนทำงานกับอาชีพที่ไม่เกี่ยวกับกฎหมายและพวกเขาก็สามารถปลดหนี้ได้เรื่องราวของทนายใหม่ที่อยู่ในกองทัพหรือที่ลูลูลีมอน หรือพี่เลี้ยงเด็กอย่างคาร์ลี่ โรเซ็นเบิร์กซึ่งเป็นนักเรียนในโรงเรียนกฎหมายบรูคลินปี 2009
“ฉันเดาว่า ฉันเป็นประเภทที่ใครบางคนสามารถทำให้ฉันเกาะเกี่ยวไว้”เธอส่งประวัติการทำงานประมาณ 15 ถึง 20 ฉบับ ตั้งแต่เดือนมีนาคมเมื่อเธอสอบผ่านเนติ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจสัน บอร์นได้รับรายได้ 33เหรียญดอลลาห์สหรัฐต่อชั่วโมงในขณะที่มีหนี้มากกว่า $200,000 ซึ่งเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นในช่วงที่เขาเรียนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในตอนปริญญาตรีและปริญญาโท
เรื่องราวที่กล่าวมานั้นค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องที่รบกวนแต่สิ่งหนึ่งที่ผู้อ่านควรตระหนักถึงทนายความที่ได้รับใบอนุญาตสามารถที่จะฝึกฝนทางกฎหมายได้ในเขตนั้นๆ พวกเขาไม่ได้ต้องการงาน บล็อกเกอร์ใช้คำเรียกคำหนึ่งว่า Millenials ซึ่งดูเหมือนเป็นการอธิบายไอเดียเกี่ยวกับงาน อาชีพทนายความเป็นอาชีพของเขาหรือเธอ ดังนั้นพวกเขาไม่สามารถที่จะเข้าไปทำงานในบริษัทกฎหมายสามารถที่จะเริ่มฝึกงานกฎหมายได้ด้วยตนเอง ในตอนเริ่มต้นค่าตอบแทนอาจจะไม่ดีและมีแนวโน้มว่า จะไม่ได้มีลูกความต่อแถวเพื่อใช้บริการมากมายนัก แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าการคอยรับโทรศัพท์หรือการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก นักเรียนกฎหมาย หรือทนายความควรจะเรียนรู้การที่จะหหาเงินในระหว่างที่เรียนอยู่และช่วงที่จบการศึกษา ผู้เขียนบล็อกเคยทำงานล่วงเวลาในคาสิโนช่วงที่เรียนกฎหมายซึ่งเป็นแค่ช่วงเวลาที่อยู่ในระหว่างจบการศึกษา อย่างไรก็ตามข้อเสนอของงานต่างๆก็มาพร้อมกับการเป็นเนติบัณฑิต
เห็นได้ชัดว่า โรงเรียนกฎหมายในสหรัฐอเมริกา เนติบัณฑิตของสหรัฐ และรายงานของโลกและข่าวสหรัฐต้องการแสดงให้เห็นถึงมุมมองของชีวิตหลังการเรียนจบกฎหมายซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของการเข้ามาเรียนกฎหมาย แต่ความเข้าใจผิดนั้นอาจเกิดขึ้นได้ในนักเรียนกฎหมาย และนักกฎหมาย ผู้เขียนอยากจะพูดถึงนักเรียนที่กู้ยืมเงินสำหรับค่าใช้จ่ายในการเรียนกฎหมาย ผู้เขียนได้อ้างถึงบทความอื่นๆของค่าใช้จ่ายนักเรียนกฎหมาย
เขาเช่าอพาร์ทเมนท์ เขาใช้เวลากว่าเดือนในการเรียนที่ตอนใต้ของฝรั่งเศสและกว่าเดือนในปราค ทั้งหมดนี้เป็นเงินกู้ยืม มีการกู้ยืมเงินค่าใช้จ่ายและค่าเรียนประมาณ $33,000 ต่อปี และเงินกู้ยืม $15,000 เป็นค่าเรียนเนติ
วันนี้สิ่งที่ดีที่สุดคือ การส่งเงิน $2,000 ถึง 3,000 ต่อเดือนแก่ผู้ให้กู้ยืมอย่างเช่น เวลล์ ฟาร์โก้, ซิตี้แบงก์ และแซลี่ เม
เป็นเรื่องยากที่จะโต้เถียงว่า ชายคนนั้นควรเลือกที่จะจ่ายค่าเรียนตั้งแต่ที่เขาไม่มีความหวังที่จะได้รับปริญญาทางนิติศาสตร์ แต่โดยทั่วไปแล้วการเรียนกฎหมายอเมริกันในทางใต้ของฝรั่งเศสด้วยเงินกู้ยืมนั้นเป็นจำนวนนน้อยกว่าการต้องใช้อย่างประหยัด นอกจากนี้หนึ่งเดือนในปราคดูเหมือนว่าเป็นช่วงเวลาของวันหยุดพักผ่อนมากกว่าเป็นช่วงแห่งการเรียนเนื่องจากไม่มีการกล่าวถึงเรื่องเรียนที่นั่น นอกจากนี้โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนไม่เคยเข้าใจความจำเป็นของการกู้ยืมเพื่อสอบเนติบัณฑิต ในขณะที่เรียนสำหรับสอบเนติบัณฑิตนั้นผู้เขียนเห็นว่าน่าจะกู้ยืมเพื่อการศึกษาแต่ท้ายที่สุดของการตัดสินใจแล้วน่าจะทำงานเท่าที่จะเป็นไปได้และประหยัดค่าใช้จ่ายอื่น(ซึ่งหมายถึงการกลับไปอยู่บ้านและพยายามที่จะสอบผ่านเนติบัณฑิตเพื่อความก้าวหน้าต่อไป)
เงินทุนกู้ยืมเพื่อที่จะเรียนเนติบัณฑิตไม่ได้เป็นความละเลย แต่ข้อเท็จจริงแล้วเงินกู้ยืมนั้นยังคงที่จะรักษาขอบเขตระหว่างการจบการศึกษากฎหมายและการสอบผ่านเนติบัณฑิต แต่การที่จะเพิ่มภาระหนี้มากขึ้นคือการเรียนเนติบัณฑิตในทางใต้ของฝรั่งเศสซึ่งบางครั้งต้องมีการตัดสินใจที่ดี หลายๆคนคิดว่า การกู้ยืมเงินสำหรับสอบเนติบัณฑิตควรที่จะคิดคำนึงดีๆก่อนที่จะตัดสินใจเนื่องจากการสอบอาจจะไม่ผ่านในครั้งแรกอาจจะต้องใช้ความพยายามและพยายามต่อไป สิ่งที่ถูกลืมไปในระหว่างการจบการศึกษากฎหมายและการสอบผ่านเป็นเนติบัณฑิตอาจจะไม่ใช่ที่ที่ดีแต่การเดินทางไปฝรั่งเศสและปราคอาจจะไม่อยู่ในมุมมองกฎหมายทั่วไป
ตามที่เห็นได้ในบทความที่น่าสนใจนี้และผู้ที่อ่านบทความนี้ควรที่จะอ่านเรื่องราวทั้งหมดสำหรับตัวเขาเอง การฝึกฝนทางกฎหมาย และอาชีพทางกฎหมายซึ่งไม่ใช่การพิสูจน์ความตกต่ำทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามเรื่องเกี่ยวกับการเงินของผู้สมัครเรียนกฎหมาย นักเรียน ผู้ที่จบการศึกษา และทนายความอาจจะช่วยลดเรื่องการว่างงานกับหนึ่งในสี่ส่วนล้านเหรียญสหรัฐ อาจกล่าวได้ว่า โรงงเรียนกฎหมายควรจะเป็นธุรกิจที่ให้ความรู้ทางกฎหมายและไม่สามารถที่จะอุทิศตัวให้กับตัวเลขที่สวยงามในข่าวของสหรัฐ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า วิธีการทางเศรษฐกิจใหม่นี้สามารถที่จะดำเนินการโดย ABA และข่าวสหรัฐซึ่งเป็นการเปิดมุมมองที่ดีทางกฎหมายแก่นักกฎหมายรุ่นใหม่หลังจากที่จบกฎหมายและหรือผ่านเนติบัณฑิตมากกว่าที่จะเป็นสิ่งที่เคยโดเด่นอยู่ในโรงเรียนกฎหมายเหนือตนอื่น
To view this posting in English please see: Legal.
9th October 2010
For some, Law School is a fascinating journey of academic achievement. Meanwhile, for others it can be an ever spiraling path of continuous sophistry and frustration. That said, those thinking of attending American law school should do meticulous research, understand the legal profession, and assess the costs prior to submitting an application or entering a course of study of the law. This author recently came across an interesting piece posted on CriminalJusticeDegree.com. To quote directly from this posting:
Law school offers up some amazing educational opportunities for those hoping to pursue work in the legal field. However, it clips along at a grueling pace and involves intensive work loads – a situation not everyone will find appealing. Those considering law school as a career path need to understand every positive and negative facet of the 3 demanding year before committing to sending in that first application. Anyone still up for the challenge knowing some of the major setbacks and issues should certainly pursue it!
The study of law can be intense and costly for those in the United States (other countries, including “common law” jurisdictions, have different protocols for attaining licensure as a legal professional). With that in mind, the aforementioned web posting takes the opportunity to “accentuate the negative” of law school in an effort to to provide balanced insight into the process by which laypeople becoming attorneys in the United States. Hopefully, by reading the information contained on that webpage, and the pages it links to, individuals thinking about a legal career can make informed decisions prior to making irrevocable changes to their lifestyle and/or financial situation.
The study and practice of law can be noble endeavors, but the law can be a cruel mistress, metaphorically, as legal reasoning and the paradigms created by legal frameworks can be difficult for some to fully comprehend without rigorous training and study of the theories and policies which underlie the laws and procedures which many Americans take for granted.
Although depicted as rather glamorous by film and television. Many American attorneys feel that the legal profession is more about dedication to client needs rather than attainment of some form of celebrity. Therefore, those interested in the legal profession should really take note of the personal reasons for seeking qualification as initial assumptions about the legal profession can be quickly refuted upon admission to a Law School. Furthermore, the practical application of the law in the “real world” may be very different compared to the academic study of jurisprudence. Therefore, those seeking a legal education are wise to have some sort of career “road map”. A plan such as this does not need to be excessively rigid, but should provide a framework to guide the prospective lawyer as he or she progresses in his or her legal education.
The hiring of a lawyer is an important decision that should not be based solely on advertisement. Before you decide, ask us to send you free written information about our qualifications and experience. The information presented on this site should not be construed to be formal legal advice nor the formation of a lawyer/client relationship.